• เคยสังเกตไหมว่าสัตว์เลี้ยงบางตัวชอบแกล้งเจ้าของตอนไม่มีใครดู เหมือนพวกมันมีแผนลับอะไรบางอย่าง! แล้วสัตว์เลี้ยงของคุณเคยทำเรื่องแปลกๆ แบบนี้บ้างไหม แชร์เล่าให้ฟังหน่อย!

    #petcommunity #petlife #dailypet
    เคยสังเกตไหมว่าสัตว์เลี้ยงบางตัวชอบแกล้งเจ้าของตอนไม่มีใครดู เหมือนพวกมันมีแผนลับอะไรบางอย่าง! แล้วสัตว์เลี้ยงของคุณเคยทำเรื่องแปลกๆ แบบนี้บ้างไหม แชร์เล่าให้ฟังหน่อย! #petcommunity #petlife #dailypet
    0 Comments 0 Shares 722 Views
  • หมาสามขา ≠ หมาพิการ

    น้องหมาสามขาส่วนใหญ่ปรับตัวได้เร็วมาก พวกเขาหาสมดุลใหม่ในการเคลื่อนไหว และบางตัววิ่งเร็วไม่แพ้หมาสี่ขา สิ่งสำคัญคือพวกเขาไม่รู้สึกว่า “ตัวเองขาดอะไร” แต่แค่ “ใช้ชีวิตกับสิ่งที่มี” อย่างเป็นธรรมชาติ
    หมาสามขา ≠ หมาพิการ น้องหมาสามขาส่วนใหญ่ปรับตัวได้เร็วมาก พวกเขาหาสมดุลใหม่ในการเคลื่อนไหว และบางตัววิ่งเร็วไม่แพ้หมาสี่ขา สิ่งสำคัญคือพวกเขาไม่รู้สึกว่า “ตัวเองขาดอะไร” แต่แค่ “ใช้ชีวิตกับสิ่งที่มี” อย่างเป็นธรรมชาติ
    Love
    1
    0 Comments 1 Shares 4K Views
  • คนเราส่วนใหญ่มักจะบอกว่า “สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” แล้วรู้หรือไม่ว่าข้อดีของการเลี้ยงหมามีมากมายขนาดไหน? ไม่เพียงแค่ความน่ารักแสนซน แต่ยังส่งผลดีหลาย ๆ อย่างต่อเจ้าของโดยที่คุณไม่คาดคิดอีกด้วย พร้อมทริควิธีเลี้ยงหมาในบ้าน เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง?

    สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
    7 ข้อดีของการเลี้ยงเจ้าตัวขนฟู ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
    เลี้ยงหมาช่วยบำบัดจิตใจให้มีความสุข
    เลี้ยงหมาช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ
    เลี้ยงหมาช่วยกระตุ้นการออกกำลังกาย
    น้องหมาเป็นเพื่อนแท้ที่รักเรา แถมพาเข้าสังคม
    เลี้ยงหมาช่วยเฝ้าบ้านและดูแลความปลอดภัยของบ้าน
    เลี้ยงหมาช่วยงานบ้าน
    เลี้ยงหมาช่วยทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า และมีกำลังใจ
    วิธีเลี้ยงหมาในบ้านให้เป็นกู๊ดบอย-กู๊ดเกิร์ล
    1. เลี้ยงหมาช่วยบำบัดจิตใจให้มีความสุข
    เวลาที่เราเหนื่อยหรือไม่สบายใจ เห็นแววตาและรอยยิ้มของเจ้าตัวขนฟูน้อย ๆ ก็ทำให้ความเครียดหายไปในพริบตา เพราะการเลี้ยงหมาแล้วใช้เวลาร่วมกับสุนัขจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด กระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข เช่น ออกซิโทซินและเซโรโทนิน ที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น

    7 สิ่งพิเศษที่น้องหมามอบให้คุณ โดยที่คุณไม่คาดคิด | รู้ใจ ประกันออนไลน์
    2. เลี้ยงหมาช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ
    ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Konkuk ในประเทศเกาหลีใต้ พบว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับน้องหมาอาจเป็นวิธีที่ดีในการช่วยบรรเทาความเครียดและเพิ่มสมาธิ โดยผลวิจัยพบว่า

    ผู้เข้าร่วมรู้สึกง่วงนอนและซึมเศร้าน้อยลงขณะทำกิจกรรมกับน้องหมา
    การให้อาหาร การนวด และการกอดน้องหมา ส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นและระดับความเครียดลดลง
    ขณะทำกิจกรรมกับน้องหมา เช่น การนวด การแปรงขน และการเล่น ค่าคลื่นสมอง Beta ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจและสมาธิ มีค่าเพิ่มขึ้น โดยจะมากขึ้นตามระดับของการสัมผัสกับน้องหมา
    พูดง่าย ๆ คือ น้องหมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และเข้าใจคุณ แต่ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้อีกด้วย (ที่มา: euronews.com)

    3. เลี้ยงหมาช่วยกระตุ้นการออกกำลังกาย
    สุนัขเป็นเพื่อนออกกำลังกายที่ดีเยี่ยม เพราะเราจะต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เจ้าตัวขนฟูน้อยแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของคนเลี้ยงหมาอีกด้วย ทำให้หัวใจแข็งแรงและมีความดันโลหิตที่เหมาะสม สำหรับคนเลี้ยงหมาที่อาจเล่นกับน้องแรงไปสักหน่อย อาจพลาดถูกหมากัดได้ จุดนี้หากมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่รู้ใจ คุ้มครองหมากัด และค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่อง เบี้ยเริ่มต้นแค่ 61 บาทต่อปี เช็คราคาฟรีไม่ต้องใส่เบอร์โทร นอกจจากมีประกันภัยแล้ว อย่าลืมพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าซ้ำทุกปีเพื่อตัวสุนัขเองด้วย

    4. น้องหมาเป็นเพื่อนแท้ที่รักเรา แถมพาเข้าสังคม
    รู้มั้ยว่าเพื่อนแท้ใกล้ตัว คือเจ้าสี่ขาที่บ้านนี่แหละ น้องจะคอยเคียงข้างเราเสมอ ตามไปทุกที่ ยิ่งหากคุณเลี้ยงหมาในบ้านไม่ว่าจะห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน หรือตอนขับรถเที่ยวกับหมา สายตาของน้องจะจับจ้องเราอยู่แทบตลอด และคอยต้อนรับด้วยความดีใจเมื่อเรากลับบ้านเสมอ เวลาทุกข์ท้อใจก็กอดได้ แถมบ่นแล้วไม่เเถียงด้วยนะ

    นอกจากนั้นการที่สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคน จึงเป็นตัวช่วยในการทำให้เราเข้าสังคมคนเลี้ยงหมาด้วยกันได้ง่ายขึ้น เพราะพวกมันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความคุ้นเคยและเป็นเพื่อนคุยกับคนแปลกหน้า

    พลาดถูกน้องหมากัด ประกันอุบัติเหตุก็คุ้มครอง | รู้ใจ
    5. เลี้ยงหมาช่วยเฝ้าบ้านและดูแลความปลอดภัยของบ้าน
    สุนัขมีประสาทสัมผัสที่ไวกว่าคน จึงสามารถรับรู้อันตรายได้เร็วกว่า เช่น เมื่อเกิดไฟไหม้หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีสุนัขบางตัวที่ได้รับการฝึกเป็นสุนัขเฝ้าบ้านเพื่อช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายอีกด้วย

    6. เลี้ยงหมาช่วยงานบ้าน
    เรื่องนี้อาจดูเป็นไปได้ยากสักหน่อย แต่หากฝึกดี ๆ น้องหมาสามารถช่วยงานบ้านง่าย ๆ ได้จริง เช่น ไปรับพัสดุจากหน้าบ้านให้คุณ ปิด-เปิดพัดลม คาบถุงขยะไปทิ้ง ช่วยขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้ เป็นต้น บอกเลยว่าวันไหนขี้เกียจ เจ้าสี่ขาเพื่อนรักนี่แหละที่จะช่วยผ่อนแรงในการทำงานบ้าน-งานช่างต่าง ๆ

    เทคนิคและวิธีการเลี้ยงหมาในบ้าน | รู้ใจ ประกันออนไลน์
    7. เลี้ยงหมาช่วยทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า และมีกำลังใจ
    คนเลี้ยงหมาจะเข้าใจถึงข้อนี้ดีเลย เพราะสุนัขจะให้ความรักและความผูกพันแบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป เพราะต้องทำงานหาเงินมาซื้ออุปกรณ์เลี้ยงหมา ทั้งแชมพู อาหารหลัก อาหารเสริม เสื้อผ้า ไปจนถึงของเล่น ค่ารักษา บอกเลยว่าแทบไม่มีเวลาท้อเลย หันมาสบตากันทีมนุษย์อย่างเรา ๆ ก็พร้อมออกไปหาเงินกันแล้ว
    คนเราส่วนใหญ่มักจะบอกว่า “สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” แล้วรู้หรือไม่ว่าข้อดีของการเลี้ยงหมามีมากมายขนาดไหน? ไม่เพียงแค่ความน่ารักแสนซน แต่ยังส่งผลดีหลาย ๆ อย่างต่อเจ้าของโดยที่คุณไม่คาดคิดอีกด้วย พร้อมทริควิธีเลี้ยงหมาในบ้าน เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง? สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย! 7 ข้อดีของการเลี้ยงเจ้าตัวขนฟู ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เลี้ยงหมาช่วยบำบัดจิตใจให้มีความสุข เลี้ยงหมาช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ เลี้ยงหมาช่วยกระตุ้นการออกกำลังกาย น้องหมาเป็นเพื่อนแท้ที่รักเรา แถมพาเข้าสังคม เลี้ยงหมาช่วยเฝ้าบ้านและดูแลความปลอดภัยของบ้าน เลี้ยงหมาช่วยงานบ้าน เลี้ยงหมาช่วยทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า และมีกำลังใจ วิธีเลี้ยงหมาในบ้านให้เป็นกู๊ดบอย-กู๊ดเกิร์ล 1. เลี้ยงหมาช่วยบำบัดจิตใจให้มีความสุข เวลาที่เราเหนื่อยหรือไม่สบายใจ เห็นแววตาและรอยยิ้มของเจ้าตัวขนฟูน้อย ๆ ก็ทำให้ความเครียดหายไปในพริบตา เพราะการเลี้ยงหมาแล้วใช้เวลาร่วมกับสุนัขจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด กระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข เช่น ออกซิโทซินและเซโรโทนิน ที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น 7 สิ่งพิเศษที่น้องหมามอบให้คุณ โดยที่คุณไม่คาดคิด | รู้ใจ ประกันออนไลน์ 2. เลี้ยงหมาช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Konkuk ในประเทศเกาหลีใต้ พบว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับน้องหมาอาจเป็นวิธีที่ดีในการช่วยบรรเทาความเครียดและเพิ่มสมาธิ โดยผลวิจัยพบว่า ผู้เข้าร่วมรู้สึกง่วงนอนและซึมเศร้าน้อยลงขณะทำกิจกรรมกับน้องหมา การให้อาหาร การนวด และการกอดน้องหมา ส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นและระดับความเครียดลดลง ขณะทำกิจกรรมกับน้องหมา เช่น การนวด การแปรงขน และการเล่น ค่าคลื่นสมอง Beta ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจและสมาธิ มีค่าเพิ่มขึ้น โดยจะมากขึ้นตามระดับของการสัมผัสกับน้องหมา พูดง่าย ๆ คือ น้องหมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และเข้าใจคุณ แต่ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้อีกด้วย (ที่มา: euronews.com) 3. เลี้ยงหมาช่วยกระตุ้นการออกกำลังกาย สุนัขเป็นเพื่อนออกกำลังกายที่ดีเยี่ยม เพราะเราจะต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เจ้าตัวขนฟูน้อยแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของคนเลี้ยงหมาอีกด้วย ทำให้หัวใจแข็งแรงและมีความดันโลหิตที่เหมาะสม สำหรับคนเลี้ยงหมาที่อาจเล่นกับน้องแรงไปสักหน่อย อาจพลาดถูกหมากัดได้ จุดนี้หากมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่รู้ใจ คุ้มครองหมากัด และค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่อง เบี้ยเริ่มต้นแค่ 61 บาทต่อปี เช็คราคาฟรีไม่ต้องใส่เบอร์โทร นอกจจากมีประกันภัยแล้ว อย่าลืมพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าซ้ำทุกปีเพื่อตัวสุนัขเองด้วย 4. น้องหมาเป็นเพื่อนแท้ที่รักเรา แถมพาเข้าสังคม รู้มั้ยว่าเพื่อนแท้ใกล้ตัว คือเจ้าสี่ขาที่บ้านนี่แหละ น้องจะคอยเคียงข้างเราเสมอ ตามไปทุกที่ ยิ่งหากคุณเลี้ยงหมาในบ้านไม่ว่าจะห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน หรือตอนขับรถเที่ยวกับหมา สายตาของน้องจะจับจ้องเราอยู่แทบตลอด และคอยต้อนรับด้วยความดีใจเมื่อเรากลับบ้านเสมอ เวลาทุกข์ท้อใจก็กอดได้ แถมบ่นแล้วไม่เเถียงด้วยนะ นอกจากนั้นการที่สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคน จึงเป็นตัวช่วยในการทำให้เราเข้าสังคมคนเลี้ยงหมาด้วยกันได้ง่ายขึ้น เพราะพวกมันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความคุ้นเคยและเป็นเพื่อนคุยกับคนแปลกหน้า พลาดถูกน้องหมากัด ประกันอุบัติเหตุก็คุ้มครอง | รู้ใจ 5. เลี้ยงหมาช่วยเฝ้าบ้านและดูแลความปลอดภัยของบ้าน สุนัขมีประสาทสัมผัสที่ไวกว่าคน จึงสามารถรับรู้อันตรายได้เร็วกว่า เช่น เมื่อเกิดไฟไหม้หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีสุนัขบางตัวที่ได้รับการฝึกเป็นสุนัขเฝ้าบ้านเพื่อช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายอีกด้วย 6. เลี้ยงหมาช่วยงานบ้าน เรื่องนี้อาจดูเป็นไปได้ยากสักหน่อย แต่หากฝึกดี ๆ น้องหมาสามารถช่วยงานบ้านง่าย ๆ ได้จริง เช่น ไปรับพัสดุจากหน้าบ้านให้คุณ ปิด-เปิดพัดลม คาบถุงขยะไปทิ้ง ช่วยขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้ เป็นต้น บอกเลยว่าวันไหนขี้เกียจ เจ้าสี่ขาเพื่อนรักนี่แหละที่จะช่วยผ่อนแรงในการทำงานบ้าน-งานช่างต่าง ๆ เทคนิคและวิธีการเลี้ยงหมาในบ้าน | รู้ใจ ประกันออนไลน์ 7. เลี้ยงหมาช่วยทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า และมีกำลังใจ คนเลี้ยงหมาจะเข้าใจถึงข้อนี้ดีเลย เพราะสุนัขจะให้ความรักและความผูกพันแบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป เพราะต้องทำงานหาเงินมาซื้ออุปกรณ์เลี้ยงหมา ทั้งแชมพู อาหารหลัก อาหารเสริม เสื้อผ้า ไปจนถึงของเล่น ค่ารักษา บอกเลยว่าแทบไม่มีเวลาท้อเลย หันมาสบตากันทีมนุษย์อย่างเรา ๆ ก็พร้อมออกไปหาเงินกันแล้ว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 4K Views
  • พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ!

    มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! พยาบาลสัตวแพทย์ เตือน 4 สายพันธุ์สุนัขสุดท้าทาย ที่ไม่เหมาะกับเจ้าของมือใหม่

    สำหรับใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขตัวแรกในชีวิต คงรู้ดีว่ามีสายพันธุ์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งตัวเล็ก ขนฟู ขี้เล่น หรือสายลุยพลังเยอะ แต่รู้หรือไม่... บางสายพันธุ์นั้นอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่เลย เพราะต้องใช้เวลา ความเข้าใจ และการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ

    "Jade" พยาบาลสัตวแพทย์จากอังกฤษ ซึ่งมักแชร์สาระเกี่ยวกับการดูแลสัตว์บนโซเชียลมีเดีย ได้ออกมาเตือนผ่าน TikTok ว่า มี 4 สายพันธุ์สุนัขที่เธอไม่แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงครั้งแรก เพราะอาจทำให้รู้สึกเหนื่อย ท้อ และหมดสนุกกับการเลี้ยงสุนัขไปเลย

    มาดูกันว่ามีพันธุ์ไหนบ้างที่ควร "เลี่ยง" ถ้ายังไม่พร้อม...

    1. Alaskan Malamute (อลาสกัน มาลามิวท์) : พลังเยอะ ช่างหอน ต้องการพื้นที่และการออกกำลังกายมาก

    สุนัขพันธุ์ใหญ่สายลุย หน้าตาคล้ายไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่ตัวใหญ่กว่าและพลังเยอะกว่ามาก ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อใช้งานหนักอย่างลากเลื่อนิแม้จะดูน่ารัก ขี้เล่น และจงรักภักดี แต่พวกมันต้องการเจ้าของที่มีพลังเหลือเฟือและพร้อมออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนี้ยัง "ช่างเห่า" และ "ช่างหอน" มาก จนอาจรบกวนเพื่อนบ้านได้ ถ้าไม่มีเวลาพาไปวิ่งหรือออกแรงเยอะๆ บอกเลยว่าสุนัขพันธุ์นี้จะเบื่อและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาได้ง่าย

    2. Chow Chow (เชาเชา) : ขี้ระแวง ฝึกยาก ขนหนา ไม่เหมาะกับอากาศร้อน

    หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาหมี แต่จริงๆ แล้วนิสัยไม่ได้นุ่มนวลอย่างที่คิด เชาเชาเป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยสนใจใคร และบางตัวอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามายุ่งด้วย ต้องการเจ้าของที่มีประสบการณ์ในการฝึก เพราะหากขาดการฝึกที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก อาจดื้อหรือไม่เชื่อฟังได้ง่าย ที่สำคัญ ยังมีแนวโน้มเป็นโรคเกี่ยวกับข้อและเอ็น เช่น สะโพกเสื่อม หรือเอ็นเข่าขาด ซึ่งทำให้เดินกะเผลกหรือเจ็บเรื้อรัง

    3. Border Collie (บอร์เดอร์ คอลลี่) : ฉลาดจัด แต่ต้องการกิจกรรมกระตุ้นสมองตลอด

    ขึ้นชื่อว่าเป็น “สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก” แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะความฉลาดก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นกัน บอร์เดอร์ คอลลี่ เป็นสุนัขทำงานที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ต้อนแกะ มีพลังงานเหลือล้นและต้องการกิจกรรมที่กระตุ้นสมองและร่างกายอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีเวลาพาออกกำลังกายหรือเล่นด้วยทุกวัน พวกเขาอาจหงุดหงิดและเริ่มมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเจ็บป่วยเรื่องข้อ และโรคทางตา เช่น ต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม

    4. Belgian Malinois (เบลเจียน มาลินัวส์) : เหมาะกับมือโปร ไม่ใช่หมาที่จะพาเดินชิลๆ ได้ทุกวัน

    สุนัขพันธุ์แกร่งจากเบลเยียม ที่นิยมใช้ในงานตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัย เพราะฉลาดและมีพลังงานสูงมาก ถ้าคุณคิดว่าแค่พาเดินรอบหมู่บ้านจะพอ ขอบอกว่า “ไม่พอแน่นอน” พวกเขาต้องการการออกกำลังกายแบบจัดหนัก เช่น วิ่งระยะไกล ปีนเขา หรือฝึกวินัยอย่างเข้มข้นทุกวัน หากไม่ได้รับการฝึกและออกกำลังกายเพียงพอ เบลเจียน มาลินัวส์อาจเครียดจนมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือหงุดหงิดง่าย และยังมีแนวโน้มเป็นโรคข้อ เช่น สะโพกเสื่อม และโรคตาอย่างต้อกระจก

    สุนัขเหล่านี้ “น่ารักแต่ดูแลไม่ง่าย” หากไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ หรือยังไม่ชำนาญในการฝึก อาจกลายเป็นความเครียดทั้งสำหรับคุณและน้องหมา

    สรุปง่ายๆ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง การมีสุนัขสักตัวเป็นเรื่องน่ารักและเติมเต็มชีวิตได้มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุนัขบางสายพันธุ์ต้องการเวลา การดูแล และความเข้าใจที่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของมือใหม่ ดังนั้น หากยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับพันธุ์ไหน ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียด หรือไปเยี่ยมชมศูนย์พักพิงสัตว์ก่อน เพราะมีสุนัขน่ารักๆ รอคนใจดีไปรับเลี้ยงอีกมากมาย
    https://www.sanook.com/news/9813490/
    พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! พยาบาลสัตวแพทย์ เตือน 4 สายพันธุ์สุนัขสุดท้าทาย ที่ไม่เหมาะกับเจ้าของมือใหม่ สำหรับใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขตัวแรกในชีวิต คงรู้ดีว่ามีสายพันธุ์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งตัวเล็ก ขนฟู ขี้เล่น หรือสายลุยพลังเยอะ แต่รู้หรือไม่... บางสายพันธุ์นั้นอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่เลย เพราะต้องใช้เวลา ความเข้าใจ และการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ "Jade" พยาบาลสัตวแพทย์จากอังกฤษ ซึ่งมักแชร์สาระเกี่ยวกับการดูแลสัตว์บนโซเชียลมีเดีย ได้ออกมาเตือนผ่าน TikTok ว่า มี 4 สายพันธุ์สุนัขที่เธอไม่แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงครั้งแรก เพราะอาจทำให้รู้สึกเหนื่อย ท้อ และหมดสนุกกับการเลี้ยงสุนัขไปเลย มาดูกันว่ามีพันธุ์ไหนบ้างที่ควร "เลี่ยง" ถ้ายังไม่พร้อม... 1. Alaskan Malamute (อลาสกัน มาลามิวท์) : พลังเยอะ ช่างหอน ต้องการพื้นที่และการออกกำลังกายมาก สุนัขพันธุ์ใหญ่สายลุย หน้าตาคล้ายไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่ตัวใหญ่กว่าและพลังเยอะกว่ามาก ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อใช้งานหนักอย่างลากเลื่อนิแม้จะดูน่ารัก ขี้เล่น และจงรักภักดี แต่พวกมันต้องการเจ้าของที่มีพลังเหลือเฟือและพร้อมออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนี้ยัง "ช่างเห่า" และ "ช่างหอน" มาก จนอาจรบกวนเพื่อนบ้านได้ ถ้าไม่มีเวลาพาไปวิ่งหรือออกแรงเยอะๆ บอกเลยว่าสุนัขพันธุ์นี้จะเบื่อและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาได้ง่าย 2. Chow Chow (เชาเชา) : ขี้ระแวง ฝึกยาก ขนหนา ไม่เหมาะกับอากาศร้อน หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาหมี แต่จริงๆ แล้วนิสัยไม่ได้นุ่มนวลอย่างที่คิด เชาเชาเป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยสนใจใคร และบางตัวอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามายุ่งด้วย ต้องการเจ้าของที่มีประสบการณ์ในการฝึก เพราะหากขาดการฝึกที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก อาจดื้อหรือไม่เชื่อฟังได้ง่าย ที่สำคัญ ยังมีแนวโน้มเป็นโรคเกี่ยวกับข้อและเอ็น เช่น สะโพกเสื่อม หรือเอ็นเข่าขาด ซึ่งทำให้เดินกะเผลกหรือเจ็บเรื้อรัง 3. Border Collie (บอร์เดอร์ คอลลี่) : ฉลาดจัด แต่ต้องการกิจกรรมกระตุ้นสมองตลอด ขึ้นชื่อว่าเป็น “สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก” แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะความฉลาดก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นกัน บอร์เดอร์ คอลลี่ เป็นสุนัขทำงานที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ต้อนแกะ มีพลังงานเหลือล้นและต้องการกิจกรรมที่กระตุ้นสมองและร่างกายอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีเวลาพาออกกำลังกายหรือเล่นด้วยทุกวัน พวกเขาอาจหงุดหงิดและเริ่มมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเจ็บป่วยเรื่องข้อ และโรคทางตา เช่น ต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม 4. Belgian Malinois (เบลเจียน มาลินัวส์) : เหมาะกับมือโปร ไม่ใช่หมาที่จะพาเดินชิลๆ ได้ทุกวัน สุนัขพันธุ์แกร่งจากเบลเยียม ที่นิยมใช้ในงานตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัย เพราะฉลาดและมีพลังงานสูงมาก ถ้าคุณคิดว่าแค่พาเดินรอบหมู่บ้านจะพอ ขอบอกว่า “ไม่พอแน่นอน” พวกเขาต้องการการออกกำลังกายแบบจัดหนัก เช่น วิ่งระยะไกล ปีนเขา หรือฝึกวินัยอย่างเข้มข้นทุกวัน หากไม่ได้รับการฝึกและออกกำลังกายเพียงพอ เบลเจียน มาลินัวส์อาจเครียดจนมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือหงุดหงิดง่าย และยังมีแนวโน้มเป็นโรคข้อ เช่น สะโพกเสื่อม และโรคตาอย่างต้อกระจก สุนัขเหล่านี้ “น่ารักแต่ดูแลไม่ง่าย” หากไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ หรือยังไม่ชำนาญในการฝึก อาจกลายเป็นความเครียดทั้งสำหรับคุณและน้องหมา สรุปง่ายๆ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง การมีสุนัขสักตัวเป็นเรื่องน่ารักและเติมเต็มชีวิตได้มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุนัขบางสายพันธุ์ต้องการเวลา การดูแล และความเข้าใจที่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของมือใหม่ ดังนั้น หากยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับพันธุ์ไหน ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียด หรือไปเยี่ยมชมศูนย์พักพิงสัตว์ก่อน เพราะมีสุนัขน่ารักๆ รอคนใจดีไปรับเลี้ยงอีกมากมาย https://www.sanook.com/news/9813490/
    WWW.SANOOK.COM
    พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ!
    มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! 4 สายพันธุ์สุนัขที่ "ไม่เหมาะ" กับเจ้าของมือใหม่ พยาบาลสัตวแพทย์เตือน ดูแลยากกว่าที่คิด
    0 Comments 0 Shares 3K Views
  • **"หมากินได้ก็ใช่ว่ากินได้! 10 อาหารต้องห้ามสำหรับน้องหมา"**


    มีใครเคยเป็นเหมือนบ้าง…นั่งกินขนมอยู่ดี ๆ แล้วเจอสายตาหมาน้อยอ้อนวอนระดับ “ละครน้ำเน่า”
    แววตานั้นมันบอกว่า *"พี่แบ่งให้หนูสักคำนะ"*
    แต่เดี๋ยวก่อน! บางอย่างเราให้หมากินไป อาจไม่ใช่แค่ท้องเสีย แต่ถึงขั้นเสี่ยงชีวิตได้เลยนะ

    ข้อมูลจาก **ASPCA (American Society for the Prevention of Cruelty to Animals)** ระบุว่า

    > อาหารต้องห้ามเป็นสาเหตุการเข้ารับการรักษาฉุกเฉินของสัตว์เลี้ยงกว่า **30%** ในสหรัฐฯ ต่อปี

    วันนี้ผมจะพาคุณรู้จัก 10 อาหารที่หมา “ห้ามกินเด็ดขาด” พร้อมเหตุผลชัด ๆ ให้จำขึ้นใจ

    ---

    **10 อาหารต้องห้ามสำหรับน้องหมา**

    1. **ช็อกโกแลต**

    มีสาร **Theobromine** และ **Caffeine** ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ตัวสั่น อาเจียน
    **ข้อเท็จจริง:** ช็อกโกแลตดาร์ก 30 กรัมก็ทำให้หมาขนาดเล็กเสี่ยงเป็นพิษได้แล้ว

    ---

    2. **องุ่นและลูกเกด**

    ทำให้ไตวายเฉียบพลัน แม้จะกินเพียงไม่กี่เม็ด
    งานวิจัยจาก *Journal of Veterinary Internal Medicine* ชี้ว่า หมาบางตัวแพ้ตั้งแต่ 3–4 องุ่นเท่านั้น

    ---

    3. **หัวหอมและกระเทียม**

    มีสาร **Thiosulfate** ที่ทำลายเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
    ทั้งแบบดิบ สุก หรือผงปรุงรส ก็อันตราย

    ---

    4. **แอลกอฮอล์**

    แม้ปริมาณเล็กน้อยก็ทำให้ระบบประสาทกดการทำงาน อาเจียน หมดสติ
    หมาไม่ต้องเมาแล้วหัวเราะได้แบบคน แต่อาจน็อคแทน

    ---

    5. **กาแฟและชา**

    มีคาเฟอีนสูง กระตุ้นหัวใจและระบบประสาท อันตรายคล้ายช็อกโกแลต

    ---

    6. **กระดูกสุก**

    แตกเป็นเศษแหลม ทิ่มกระเพาะหรือลำไส้ เสี่ยงทะลุ
    ถ้าจะให้กระดูก ควรเป็นกระดูกดิบขนาดใหญ่ (และอยู่ในความดูแลใกล้ชิด)

    ---

    7. **อะโวคาโด**

    มีสาร **Persin** ทำให้ท้องเสีย อาเจียน และอาจถึงตายถ้ากินเยอะ

    ---

    8. **นมวัวและผลิตภัณฑ์นม**

    หมาส่วนใหญ่ย่อยแลคโตสไม่ได้ เสี่ยงท้องเสีย

    ---

    9. **น้ำตาลและขนมหวาน**

    เพิ่มโอกาสอ้วน เบาหวาน และโรคฟันผุ
    ขนมที่มีสาร **Xylitol** (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) อันตรายถึงตาย

    ---

    10. **อาหารมันจัด/ทอด**

    เพิ่มความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ

    ---

    ## **ข้อควรรู้**

    * อาการอาหารเป็นพิษในหมา: อาเจียน ท้องเสีย ซึม หายใจลำบาก ชัก
    * ควรเก็บอาหารอันตรายให้พ้นมือและพ้นปากหมา
    * หากสงสัยว่าหมากินสิ่งต้องห้าม รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

    ---

    ## **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา**

    * เตรียมขนมหมาโดยเฉพาะ เช่น ขนมสุนัขจากเนื้อแท้ 100%
    * ทำ “ลิสต์อาหารต้องห้าม” แปะไว้ในครัวกันลืม
    * ฝึกคำสั่ง “ไม่” หรือ “ห้าม” เพื่อป้องกันหมาคาบกินของอันตราย

    ---


    > หมาน่ารัก อย่าเผลอให้ช็อกโกแลต
    > องุ่นเล็ก ๆ ก็พิษแรงน่าหวาดหวั่น
    > เลี้ยงด้วยรัก ต้องรู้จักสิ่งสำคัญ
    > อะไรห้าม…กันไว้ดีกว่ามานั่งเสียใจ

    ---

    ## **แหล่งข้อมูลอ้างอิง**

    1. ASPCA – *People Foods to Avoid Feeding Your Pets* – [aspca.org](https://www.aspca.org)
    2. Journal of Veterinary Internal Medicine – *Grape and Raisin Toxicity in Dogs*
    3. American Kennel Club – *10 Foods Your Dog Should Never Eat* – [akc.org](https://www.akc.org)

    ---


    * **หลัก:** #อาหารต้องห้ามหมา #FoodsDogsShouldNeverEat #หมาสุขภาพดี #สุขภาพหมา
    * **เสริม:** #เลี้ยงหมาให้ถูกวิธี #PetHealthTips #หมาแข็งแรง #DogCare
    * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมารักสุขภาพ #PetOwnerTips #DogLoversThailand


    * อาหารต้องห้ามหมา
    * หมากินอะไรไม่ได้
    * Foods dogs should never eat
    * อาหารอันตรายสำหรับหมา
    * อาหารห้ามให้หมา
    🐶 **"หมากินได้ก็ใช่ว่ากินได้! 10 อาหารต้องห้ามสำหรับน้องหมา"** มีใครเคยเป็นเหมือนบ้าง…นั่งกินขนมอยู่ดี ๆ แล้วเจอสายตาหมาน้อยอ้อนวอนระดับ “ละครน้ำเน่า” แววตานั้นมันบอกว่า *"พี่แบ่งให้หนูสักคำนะ"* 😢 แต่เดี๋ยวก่อน! บางอย่างเราให้หมากินไป อาจไม่ใช่แค่ท้องเสีย แต่ถึงขั้นเสี่ยงชีวิตได้เลยนะ ข้อมูลจาก **ASPCA (American Society for the Prevention of Cruelty to Animals)** ระบุว่า > อาหารต้องห้ามเป็นสาเหตุการเข้ารับการรักษาฉุกเฉินของสัตว์เลี้ยงกว่า **30%** ในสหรัฐฯ ต่อปี วันนี้ผมจะพาคุณรู้จัก 10 อาหารที่หมา “ห้ามกินเด็ดขาด” พร้อมเหตุผลชัด ๆ ให้จำขึ้นใจ --- 🍫 **10 อาหารต้องห้ามสำหรับน้องหมา** 1. **ช็อกโกแลต** มีสาร **Theobromine** และ **Caffeine** ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ตัวสั่น อาเจียน 💡 **ข้อเท็จจริง:** ช็อกโกแลตดาร์ก 30 กรัมก็ทำให้หมาขนาดเล็กเสี่ยงเป็นพิษได้แล้ว --- 2. **องุ่นและลูกเกด** ทำให้ไตวายเฉียบพลัน แม้จะกินเพียงไม่กี่เม็ด 📌 งานวิจัยจาก *Journal of Veterinary Internal Medicine* ชี้ว่า หมาบางตัวแพ้ตั้งแต่ 3–4 องุ่นเท่านั้น --- 3. **หัวหอมและกระเทียม** มีสาร **Thiosulfate** ที่ทำลายเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ⚠️ ทั้งแบบดิบ สุก หรือผงปรุงรส ก็อันตราย --- 4. **แอลกอฮอล์** แม้ปริมาณเล็กน้อยก็ทำให้ระบบประสาทกดการทำงาน อาเจียน หมดสติ 📌 หมาไม่ต้องเมาแล้วหัวเราะได้แบบคน แต่อาจน็อคแทน --- 5. **กาแฟและชา** มีคาเฟอีนสูง กระตุ้นหัวใจและระบบประสาท อันตรายคล้ายช็อกโกแลต --- 6. **กระดูกสุก** แตกเป็นเศษแหลม ทิ่มกระเพาะหรือลำไส้ เสี่ยงทะลุ 💡 ถ้าจะให้กระดูก ควรเป็นกระดูกดิบขนาดใหญ่ (และอยู่ในความดูแลใกล้ชิด) --- 7. **อะโวคาโด** มีสาร **Persin** ทำให้ท้องเสีย อาเจียน และอาจถึงตายถ้ากินเยอะ --- 8. **นมวัวและผลิตภัณฑ์นม** หมาส่วนใหญ่ย่อยแลคโตสไม่ได้ เสี่ยงท้องเสีย --- 9. **น้ำตาลและขนมหวาน** เพิ่มโอกาสอ้วน เบาหวาน และโรคฟันผุ ⚠️ ขนมที่มีสาร **Xylitol** (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) อันตรายถึงตาย --- 10. **อาหารมันจัด/ทอด** เพิ่มความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ --- ## 📌 **ข้อควรรู้** * อาการอาหารเป็นพิษในหมา: อาเจียน ท้องเสีย ซึม หายใจลำบาก ชัก * ควรเก็บอาหารอันตรายให้พ้นมือและพ้นปากหมา * หากสงสัยว่าหมากินสิ่งต้องห้าม รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที --- ## 💡 **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา** * เตรียมขนมหมาโดยเฉพาะ เช่น ขนมสุนัขจากเนื้อแท้ 100% * ทำ “ลิสต์อาหารต้องห้าม” แปะไว้ในครัวกันลืม * ฝึกคำสั่ง “ไม่” หรือ “ห้าม” เพื่อป้องกันหมาคาบกินของอันตราย --- > หมาน่ารัก อย่าเผลอให้ช็อกโกแลต > องุ่นเล็ก ๆ ก็พิษแรงน่าหวาดหวั่น > เลี้ยงด้วยรัก ต้องรู้จักสิ่งสำคัญ > อะไรห้าม…กันไว้ดีกว่ามานั่งเสียใจ --- ## 📚 **แหล่งข้อมูลอ้างอิง** 1. ASPCA – *People Foods to Avoid Feeding Your Pets* – [aspca.org](https://www.aspca.org) 2. Journal of Veterinary Internal Medicine – *Grape and Raisin Toxicity in Dogs* 3. American Kennel Club – *10 Foods Your Dog Should Never Eat* – [akc.org](https://www.akc.org) --- * **หลัก:** #อาหารต้องห้ามหมา #FoodsDogsShouldNeverEat #หมาสุขภาพดี #สุขภาพหมา * **เสริม:** #เลี้ยงหมาให้ถูกวิธี #PetHealthTips #หมาแข็งแรง #DogCare * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมารักสุขภาพ #PetOwnerTips #DogLoversThailand * อาหารต้องห้ามหมา * หมากินอะไรไม่ได้ * Foods dogs should never eat * อาหารอันตรายสำหรับหมา * อาหารห้ามให้หมา
    0 Comments 0 Shares 6K Views
  • แม้จะมีขาแค่ 3 ข้าง แต่น้องหมาส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ดีและมีคุณภาพชีวิตเหมือนหมาทั่วไป พวกเขาเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวใหม่ สร้างสมดุลใหม่ และบางตัวก็ยังวิ่งเร็วกว่าหมาปกติซะอีก

    https://lazadog.com/blog/5-Things-You-Should-Know-When-a-Dog-Has-Only-3-Legs-Left-He-Can-Still-Live-a-Quality-Life
    แม้จะมีขาแค่ 3 ข้าง แต่น้องหมาส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ดีและมีคุณภาพชีวิตเหมือนหมาทั่วไป พวกเขาเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวใหม่ สร้างสมดุลใหม่ และบางตัวก็ยังวิ่งเร็วกว่าหมาปกติซะอีก https://lazadog.com/blog/5-Things-You-Should-Know-When-a-Dog-Has-Only-3-Legs-Left-He-Can-Still-Live-a-Quality-Life
    LAZADOG.COM
    5 เรื่องที่คุณควรรู้ "เมื่อน้องหมาเหลือ 3 ขา เขายังใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ"
    5 เรื่องที่คุณควรรู้ "เมื่อน้องหมาเหลือ 3 ขา เขายังใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 2K Views
  • เคสช่วยเหลือร็อตไวเลอร์ 4 ตัว ถูกทิ้งกลางป่า
    ขอชื่นชมน้ำใจของจิตอาสาทุกท่านค่ะ

    มีรายงานจากผู้ใช้โซเชียลว่า พบ ร็อตไวเลอร์ 4 ตัวถูกนำมาทิ้งกลางป่า อยู่ในสภาพอิดโรย หิวโซ บางตัวมีบาดแผลติดเชื้อ และอีกตัวมีปัญหาที่ดวงตา
    ถือเป็นภาพที่สะเทือนใจมากสำหรับคนรักสัตว์ทุกคน

    ขอบคุณ พี่น้องใหญ่และน้องเล้ง ที่ลงพื้นที่ช่วยดูแลเบื้องต้น และประสานหน่วยงาน
    รวมถึง พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ที่เมตตาเดินทางไปดูด้วยตนเอง พร้อมเตรียมรับน้อง ๆ ทั้งหมดกลับที่พักปลอดภัยในคืนนี้ เพื่อให้น้องไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป

    ชุมชน Doglala ขอส่งกำลังใจให้จิตอาสาทุกท่าน และหวังว่าน้อง ๆ จะได้รับการดูแลจนหายดีและได้บ้านใหม่ในเร็ววันค่ะ

    ที่มา: พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่
    #doglalaช่วยเหลือ #หมาถูกทิ้ง #ร็อตไวเลอร์ #รักสัตว์คือหัวใจเรา
    🐾 เคสช่วยเหลือร็อตไวเลอร์ 4 ตัว ถูกทิ้งกลางป่า ขอชื่นชมน้ำใจของจิตอาสาทุกท่านค่ะ ❤️ มีรายงานจากผู้ใช้โซเชียลว่า พบ ร็อตไวเลอร์ 4 ตัวถูกนำมาทิ้งกลางป่า อยู่ในสภาพอิดโรย หิวโซ บางตัวมีบาดแผลติดเชื้อ และอีกตัวมีปัญหาที่ดวงตา ถือเป็นภาพที่สะเทือนใจมากสำหรับคนรักสัตว์ทุกคน 🥺 🙏 ขอบคุณ พี่น้องใหญ่และน้องเล้ง ที่ลงพื้นที่ช่วยดูแลเบื้องต้น และประสานหน่วยงาน รวมถึง พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ที่เมตตาเดินทางไปดูด้วยตนเอง พร้อมเตรียมรับน้อง ๆ ทั้งหมดกลับที่พักปลอดภัยในคืนนี้ เพื่อให้น้องไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป 📌 ชุมชน Doglala ขอส่งกำลังใจให้จิตอาสาทุกท่าน และหวังว่าน้อง ๆ จะได้รับการดูแลจนหายดีและได้บ้านใหม่ในเร็ววันค่ะ ที่มา: พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ #doglalaช่วยเหลือ #หมาถูกทิ้ง #ร็อตไวเลอร์ #รักสัตว์คือหัวใจเรา
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 2K Views
  • #จับได้แล้วครับ
    หมาร็อตไวเลอร์ 4 ตัว #ถูกนำมาทิ้งกลางป่าหลายวันแล้ว อยู่ในสภาพหิวโซ #บางตัวมีแผลเน่ามีหนอนเจาะ

    #คืนนี้ไม่ต้องนอนตากฝนแล้ว

    พระครูอ๊อด–มูลนิธิ The ARK Foundation ช่วยเหลือร็อตไวเลอร์ถูกทอดทิ้งกลางป่าบ้านแม่กำปอง ฝ่าฝน-หิวโซกว่า 5 วัน

    เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มิถุนายน 2568 พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน (พระครูอ๊อด) วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์จำนวน 4 ตัว ถูกนำมาทอดทิ้งกลางป่าในสภาพผ่ายผอมและเปียกปอนจากฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน บริเวณใกล้แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

    พระครูอ๊อดจึงร่วมลงพื้นที่พร้อมกับนายบัณฑิต หมื่นเรือคำ ตัวแทนมูลนิธิ ดิ อาร์ค (The ARK Foundation) และหน่วยกู้ภัยอำเภอแม่ออน เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยพบว่าสุนัขทั้ง 4 ตัวอยู่ในพื้นที่ป่า ไม่มีที่หลบฝน ไม่มีอาหาร และไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง สภาพโดยรวมของสุนัขอยู่ในภาวะหิวโซ และบางตัวมีบาดแผลลึกจากการต่อสู้ ซึ่งบางจุดมีหนอนขึ้นและมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง

    ทีมช่วยเหลือเริ่มต้นจากการสร้างความคุ้นเคยกับสุนัข ใช้ทั้งอาหารเม็ดและอาหารเปียกเพื่อสร้างความไว้ใจ ก่อนจะประเมินแนวทางช่วยเหลือ เนื่องจากสุนัขไม่มีเจ้าของ และแสดงอาการระแวง จึงมีการใช้ยาสลบอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้สุนัขหนีหายเข้าป่า

    หลังปฏิบัติการ สุนัขทั้ง 4 ตัวถูกเคลื่อนย้ายได้อย่างเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงตรวจหาโรคติดต่อ อาทิ ไข้หัดสุนัข เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวสุนัขและสัตว์อื่นที่อาจต้องอยู่ร่วมกันระหว่างการพักฟื้นในศูนย์บริบาลสัตว์

    พระครูอ๊อดเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิ The ARK Foundation และกลุ่มอาสาสมัครเพื่อช่วยดูแลฟื้นฟูสุขภาพของสุนัขทั้ง 4 ตัว พร้อมกันนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าอาหารสุนัข–แมว เพื่อระดมสิ่งของจำเป็นสำหรับการช่วยเหลือสัตว์จรจัดและสัตว์ที่ได้รับการช่วยชีวิตจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต

    “สุนัขเหล่านี้อาจถูกมองว่าไร้ค่า แต่สำหรับเราคือชีวิตที่ไม่ควรถูกทอดทิ้งในป่าอย่างเดียวดาย การได้เห็นพวกเขาปลอดภัยขึ้นอีกครั้ง คือแรงใจของเราในการเดินหน้าช่วยเหลือสัตว์ที่ไร้ที่พึ่ง และวันนี้อิ่มใจเเละดีใจมาก“ พระครูอ๊อดกล่าว

    #ขอบคุณน้องใหญ่น้องเล้ง
    Noomyai Mashin
    #จับได้แล้วครับ หมาร็อตไวเลอร์ 4 ตัว #ถูกนำมาทิ้งกลางป่าหลายวันแล้ว อยู่ในสภาพหิวโซ #บางตัวมีแผลเน่ามีหนอนเจาะ #คืนนี้ไม่ต้องนอนตากฝนแล้ว พระครูอ๊อด–มูลนิธิ The ARK Foundation ช่วยเหลือร็อตไวเลอร์ถูกทอดทิ้งกลางป่าบ้านแม่กำปอง ฝ่าฝน-หิวโซกว่า 5 วัน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มิถุนายน 2568 พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน (พระครูอ๊อด) วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์จำนวน 4 ตัว ถูกนำมาทอดทิ้งกลางป่าในสภาพผ่ายผอมและเปียกปอนจากฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน บริเวณใกล้แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พระครูอ๊อดจึงร่วมลงพื้นที่พร้อมกับนายบัณฑิต หมื่นเรือคำ ตัวแทนมูลนิธิ ดิ อาร์ค (The ARK Foundation) และหน่วยกู้ภัยอำเภอแม่ออน เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยพบว่าสุนัขทั้ง 4 ตัวอยู่ในพื้นที่ป่า ไม่มีที่หลบฝน ไม่มีอาหาร และไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง สภาพโดยรวมของสุนัขอยู่ในภาวะหิวโซ และบางตัวมีบาดแผลลึกจากการต่อสู้ ซึ่งบางจุดมีหนอนขึ้นและมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง ทีมช่วยเหลือเริ่มต้นจากการสร้างความคุ้นเคยกับสุนัข ใช้ทั้งอาหารเม็ดและอาหารเปียกเพื่อสร้างความไว้ใจ ก่อนจะประเมินแนวทางช่วยเหลือ เนื่องจากสุนัขไม่มีเจ้าของ และแสดงอาการระแวง จึงมีการใช้ยาสลบอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้สุนัขหนีหายเข้าป่า หลังปฏิบัติการ สุนัขทั้ง 4 ตัวถูกเคลื่อนย้ายได้อย่างเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงตรวจหาโรคติดต่อ อาทิ ไข้หัดสุนัข เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวสุนัขและสัตว์อื่นที่อาจต้องอยู่ร่วมกันระหว่างการพักฟื้นในศูนย์บริบาลสัตว์ พระครูอ๊อดเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิ The ARK Foundation และกลุ่มอาสาสมัครเพื่อช่วยดูแลฟื้นฟูสุขภาพของสุนัขทั้ง 4 ตัว พร้อมกันนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าอาหารสุนัข–แมว เพื่อระดมสิ่งของจำเป็นสำหรับการช่วยเหลือสัตว์จรจัดและสัตว์ที่ได้รับการช่วยชีวิตจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต “สุนัขเหล่านี้อาจถูกมองว่าไร้ค่า แต่สำหรับเราคือชีวิตที่ไม่ควรถูกทอดทิ้งในป่าอย่างเดียวดาย การได้เห็นพวกเขาปลอดภัยขึ้นอีกครั้ง คือแรงใจของเราในการเดินหน้าช่วยเหลือสัตว์ที่ไร้ที่พึ่ง และวันนี้อิ่มใจเเละดีใจมาก“ พระครูอ๊อดกล่าว #ขอบคุณน้องใหญ่น้องเล้ง Noomyai Mashin
    Love
    1
    4 Comments 0 Shares 2K Views