• นี่คือย่อวิธีเลี้ยงลูกบีเกิ้ลแบบไทยๆ ปี 2025 ครับ

    จุดสำคัญ

    นิสัยบีเกิ้ล: ร่าเริง ซน ดมเก่ง ต้องการการฝึกและเข้าสังคมตั้งแต่เล็ก

    อาหาร: ให้วันละ 2 มื้อ ปริมาณพอเหมาะ เน้นโปรตีน ไขมันดี และควบคุมน้ำหนัก

    ออกกำลังกาย: เดิน/เล่นวันละ 1–2 ชั่วโมง ใช้สายจูงเสมอ

    การฝึก: เริ่มฝึกคำสั่งพื้นฐาน, crate training และขับถ่ายตั้งแต่ 2–3 เดือน

    สุขภาพ: ระวังโรคอ้วน ข้อเสื่อม โรคหู และปัญหาตา ต้องแปรงขน ฟัน เช็ดหูสม่ำเสมอ
    นี่คือย่อวิธีเลี้ยงลูกบีเกิ้ลแบบไทยๆ ปี 2025 ครับ 🐶 ✅ จุดสำคัญ นิสัยบีเกิ้ล: ร่าเริง ซน ดมเก่ง ต้องการการฝึกและเข้าสังคมตั้งแต่เล็ก อาหาร: ให้วันละ 2 มื้อ ปริมาณพอเหมาะ เน้นโปรตีน ไขมันดี และควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย: เดิน/เล่นวันละ 1–2 ชั่วโมง ใช้สายจูงเสมอ การฝึก: เริ่มฝึกคำสั่งพื้นฐาน, crate training และขับถ่ายตั้งแต่ 2–3 เดือน สุขภาพ: ระวังโรคอ้วน ข้อเสื่อม โรคหู และปัญหาตา ต้องแปรงขน ฟัน เช็ดหูสม่ำเสมอ
    0 Комментарии 0 Поделились 3Кб Просмотры
  • มาดูรายละเอียดการดูแล **Shiba Inu** กันแบบครบ ๆ นะ

    ---

    ## ข้อมูลพื้นฐาน

    * **ถิ่นกำเนิด**: ญี่ปุ่น (หนึ่งใน “Nihon Ken” หรือสุนัขพันธุ์พื้นเมือง 6 สายพันธุ์)
    * **ขนาด**: เล็กถึงกลาง (เพศผู้สูง \~35–43 ซม., หนัก \~8–11 กก.)
    * **ลักษณะเด่น**: หูตั้ง, หางม้วน, ขนสองชั้น, บุคลิกเป็นตัวของตัวเองมาก

    ---

    ## นิสัยและบุคลิก

    * **ฉลาดและหัวแข็ง** — เข้าใจคำสั่งเร็ว แต่เลือกจะทำหรือไม่ทำก็ได้
    * **รักอิสระ** — ไม่ติดเจ้าของแบบตามทุกก้าว แต่ยังผูกพันลึกซึ้ง
    * **สะอาด** — ชอบเลียทำความสะอาดตัวเองคล้ายแมว
    * **สัญชาตญาณล่าสัตว์สูง** — ระวังสัตว์เล็ก ๆ

    ---

    ## การดูแลสุขภาพ

    * **อายุขัย**: 12–15 ปี
    * **ปัญหาสุขภาพพบบ่อย**:

    * โรคสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia)
    * ปัญหาตา (ต้อกระจก, Progressive Retinal Atrophy)
    * ภูมิแพ้ผิวหนัง
    * **การป้องกัน**: ตรวจสุขภาพประจำปี, ฉีดวัคซีนครบ, ดูแลน้ำหนัก

    ---

    ## 🪮 การดูแลขน

    * **โครงสร้างขน**: Double coat (ชั้นนอกกันน้ำ, ชั้นในนุ่ม)
    * **ผลัดขน**: ปีละ 2 ครั้งหนัก ๆ (ฤดูใบไม้ผลิ/ใบไม้ร่วง)
    * **การดูแล**:

    * แปรงขน 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ (ทุกวันช่วงผลัดขน)
    * อาบน้ำทุก 2–3 สัปดาห์ หรือเมื่อสกปรก
    * ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนเพื่อลดระคายผิว

    ---

    ## การออกกำลังกาย

    * ต้องการวันละ 45–60 นาที
    * ผสมทั้ง **เดิน**, **วิ่งเล่น**, **เกมฝึกสมอง**
    * ควรใช้สายจูงหรือพื้นที่ปิด เพราะมีสัญชาตญาณล่าสัตว์

    ---

    ## การฝึก

    * **ฝึกตั้งแต่เล็ก** (Socialization + Basic commands)
    * ใช้ **Positive reinforcement** (ให้รางวัล, ชมเชย)
    * ฝึกความอดทน เช่น รอคอย, ควบคุมการเห่า

    ---

    ## อาหาร

    * โปรตีนคุณภาพสูง (ไก่, ปลา, เนื้อแดง)
    * ไขมันดี (โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6) เพื่อบำรุงขนและผิว
    * คุมปริมาณแคลอรี่เพื่อป้องกันอ้วน
    * หลีกเลี่ยงอาหารปรุงรส, กระดูกไก่สุก, ช็อกโกแลต, องุ่น

    ---

    ## สรุป

    | ด้าน | ความต้องการ |
    | -------- | ------------------------------------------------- |
    | สุขภาพ | ตรวจปีละครั้ง, ระวังสะโพก/ตา/ผิว |
    | ขน | แปรงสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง, อาบน้ำ 2–3 สัปดาห์/ครั้ง |
    | ออกกำลัง | 45–60 นาที/วัน |
    | ฝึก | ตั้งแต่เล็ก, ใช้วิธีให้รางวัล |
    | อาหาร | โปรตีนสูง, ไขมันดี, คุมปริมาณ |

    ---

    ถ้าต้องการ ผมสามารถทำ **คู่มือการเลี้ยง Shiba Inu แบบสไตล์ญี่ปุ่น** ที่รวมเคล็ดลับจากฟาร์มญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้ได้นะครับ จะเน้นทั้งอาหาร, การฝึก และการดูแลตามฤดูกาล
    มาดูรายละเอียดการดูแล **Shiba Inu** กันแบบครบ ๆ นะ --- ## 🐕 ข้อมูลพื้นฐาน * **ถิ่นกำเนิด**: ญี่ปุ่น (หนึ่งใน “Nihon Ken” หรือสุนัขพันธุ์พื้นเมือง 6 สายพันธุ์) * **ขนาด**: เล็กถึงกลาง (เพศผู้สูง \~35–43 ซม., หนัก \~8–11 กก.) * **ลักษณะเด่น**: หูตั้ง, หางม้วน, ขนสองชั้น, บุคลิกเป็นตัวของตัวเองมาก --- ## 🧠 นิสัยและบุคลิก * **ฉลาดและหัวแข็ง** — เข้าใจคำสั่งเร็ว แต่เลือกจะทำหรือไม่ทำก็ได้ * **รักอิสระ** — ไม่ติดเจ้าของแบบตามทุกก้าว แต่ยังผูกพันลึกซึ้ง * **สะอาด** — ชอบเลียทำความสะอาดตัวเองคล้ายแมว * **สัญชาตญาณล่าสัตว์สูง** — ระวังสัตว์เล็ก ๆ --- ## 🩺 การดูแลสุขภาพ * **อายุขัย**: 12–15 ปี * **ปัญหาสุขภาพพบบ่อย**: * โรคสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) * ปัญหาตา (ต้อกระจก, Progressive Retinal Atrophy) * ภูมิแพ้ผิวหนัง * **การป้องกัน**: ตรวจสุขภาพประจำปี, ฉีดวัคซีนครบ, ดูแลน้ำหนัก --- ## 🪮 การดูแลขน * **โครงสร้างขน**: Double coat (ชั้นนอกกันน้ำ, ชั้นในนุ่ม) * **ผลัดขน**: ปีละ 2 ครั้งหนัก ๆ (ฤดูใบไม้ผลิ/ใบไม้ร่วง) * **การดูแล**: * แปรงขน 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ (ทุกวันช่วงผลัดขน) * อาบน้ำทุก 2–3 สัปดาห์ หรือเมื่อสกปรก * ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนเพื่อลดระคายผิว --- ## 🏃‍♂️ การออกกำลังกาย * ต้องการวันละ 45–60 นาที * ผสมทั้ง **เดิน**, **วิ่งเล่น**, **เกมฝึกสมอง** * ควรใช้สายจูงหรือพื้นที่ปิด เพราะมีสัญชาตญาณล่าสัตว์ --- ## 🎓 การฝึก * **ฝึกตั้งแต่เล็ก** (Socialization + Basic commands) * ใช้ **Positive reinforcement** (ให้รางวัล, ชมเชย) * ฝึกความอดทน เช่น รอคอย, ควบคุมการเห่า --- ## 🍖 อาหาร * โปรตีนคุณภาพสูง (ไก่, ปลา, เนื้อแดง) * ไขมันดี (โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6) เพื่อบำรุงขนและผิว * คุมปริมาณแคลอรี่เพื่อป้องกันอ้วน * หลีกเลี่ยงอาหารปรุงรส, กระดูกไก่สุก, ช็อกโกแลต, องุ่น --- ## 📋 สรุป | ด้าน | ความต้องการ | | -------- | ------------------------------------------------- | | สุขภาพ | ตรวจปีละครั้ง, ระวังสะโพก/ตา/ผิว | | ขน | แปรงสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง, อาบน้ำ 2–3 สัปดาห์/ครั้ง | | ออกกำลัง | 45–60 นาที/วัน | | ฝึก | ตั้งแต่เล็ก, ใช้วิธีให้รางวัล | | อาหาร | โปรตีนสูง, ไขมันดี, คุมปริมาณ | --- ถ้าต้องการ ผมสามารถทำ **คู่มือการเลี้ยง Shiba Inu แบบสไตล์ญี่ปุ่น** ที่รวมเคล็ดลับจากฟาร์มญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้ได้นะครับ จะเน้นทั้งอาหาร, การฝึก และการดูแลตามฤดูกาล
    Love
    2
    1 Комментарии 0 Поделились 3Кб Просмотры
  • **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"**

    ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก”
    ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ

    แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ

    ---

    **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?**

    วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน
    ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง
    สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง

    ---

    **สถิติจากแหล่งข้อมูล**

    * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า
    สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก
    * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%**

    ---

    **ข้อดีที่ผมเจอ**

    1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด
    2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง
    3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง

    ---

    **ข้อควรรู้**

    * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข
    * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน
    * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ

    ---

    **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา**

    * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี
    * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน
    * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน

    ---

    > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง
    > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง
    > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง
    > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ

    ---

    ## **แหล่งข้อมูลอ้างอิง**

    1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk)
    2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study*
    3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org)

    ---

    * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข
    * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ#สายจูงดีต่อใจ
    * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview

    ---


    * รีวิวสายจูงกันดึง
    * Anti-Pull Leash ดีไหม
    * วิธีเลือกสายจูงหมา
    * สายจูงหมาไม่ดึง
    * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา

    🐕‍🦺 **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"** ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก” 😅 ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ --- 🦴 **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?** วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง 😮 สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง --- 📊 **สถิติจากแหล่งข้อมูล** * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%** --- 🛠️ **ข้อดีที่ผมเจอ** 1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด 2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง 3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง --- ⚠️ **ข้อควรรู้** * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ --- 💡 **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา** * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน --- > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ --- ## 📚 **แหล่งข้อมูลอ้างอิง** 1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk) 2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study* 3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org) --- * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ่ #สายจูงดีต่อใจ * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview --- * รีวิวสายจูงกันดึง * Anti-Pull Leash ดีไหม * วิธีเลือกสายจูงหมา * สายจูงหมาไม่ดึง * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา
    0 Комментарии 0 Поделились 5Кб Просмотры
  • เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นข่าวนี้ ก็ใจหายที่น้องจากไป แต่มองอีกมุมหนึ่ง น้องอายุมากขนาดนี้ ก็คงต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ไม่คล่องแคล่วเมื่อแต่ก่อน และน้องก็คงทุกข์ ไม่สบายด้วยแหละ เลยมองว่า การที่น้องจากไป ก็ดีใจที่น้องก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และได้พักยาว ๆ แล้ว แต่ยังไงก็ยังเศร้าอยู่ดี แม้อาจจะไม่ได้เลี้ยงโดยตรงก็ตาม


    โบบี สุนัขอายุยืนที่สุดในโลกวัย 31 ปี ตายแล้วที่โปรตุเกส จากการเปิดเผยของกินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ในวันจันทร์

    โบบี สุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบตอนกลางของโปรตุเกสมาตลอดชีวิตของมัน ได้รับการยืนยันว่าเป็นสุนัขที่อายุยืนที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโบบีมีอายุรวม 31 ปี กับ 165 วัน ทำสถิติใหม่แซงแชมป์เก่าจากออสเตรเลียที่ครองตำแหน่งสุนัขอายุยืนที่สุดมาตั้งแต่ปี 1939 ที่ตายไปตอนอายุ 29 ปี 5 เดือน

    ทั้งนี้ ปกติแล้วสุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งมักถูกเลี้ยงเป็นหมาต้อนฝูงแกะ มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 12-14 ปี

    ลีโอเนล คอสตา เจ้าของโบบี บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้สุนัขตัวนี้มีอายุยืนยาวมีหลายประการด้วยกัน รวมถึงการได้อยู่อย่างสงบในเขตชนบท ไม่เคยต้องถูกล่ามหรือใช้สายจูง และกิน "อาหารของคน"

    โบบีเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และไม่นานก่อนที่จะจากโลกนี้ไป โบบียังชอบออกไปเดินข้างนอกอยู่เสมอ แม้ว่าขนจะบางลง สายตาไม่เหมือนเดิม และต้องการนอนพักผ่อนมากขึ้นก็ตาม

    กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ระบุว่า สุนัขที่อายุยืนกว่า 30 ปีอย่างโบบี ถือเป็น "สิ่งมหัศจรรย์"

    Cr. https://www.voathai.com/a/bobi-world-s-oldest-dog-dies-in-portugal-aged-31/7323136.html

    #cutepet #dog
    เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นข่าวนี้ ก็ใจหายที่น้องจากไป แต่มองอีกมุมหนึ่ง น้องอายุมากขนาดนี้ ก็คงต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ไม่คล่องแคล่วเมื่อแต่ก่อน และน้องก็คงทุกข์ ไม่สบายด้วยแหละ เลยมองว่า การที่น้องจากไป ก็ดีใจที่น้องก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และได้พักยาว ๆ แล้ว แต่ยังไงก็ยังเศร้าอยู่ดี แม้อาจจะไม่ได้เลี้ยงโดยตรงก็ตาม โบบี สุนัขอายุยืนที่สุดในโลกวัย 31 ปี ตายแล้วที่โปรตุเกส จากการเปิดเผยของกินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ในวันจันทร์ โบบี สุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบตอนกลางของโปรตุเกสมาตลอดชีวิตของมัน ได้รับการยืนยันว่าเป็นสุนัขที่อายุยืนที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโบบีมีอายุรวม 31 ปี กับ 165 วัน ทำสถิติใหม่แซงแชมป์เก่าจากออสเตรเลียที่ครองตำแหน่งสุนัขอายุยืนที่สุดมาตั้งแต่ปี 1939 ที่ตายไปตอนอายุ 29 ปี 5 เดือน ทั้งนี้ ปกติแล้วสุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งมักถูกเลี้ยงเป็นหมาต้อนฝูงแกะ มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 12-14 ปี ลีโอเนล คอสตา เจ้าของโบบี บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้สุนัขตัวนี้มีอายุยืนยาวมีหลายประการด้วยกัน รวมถึงการได้อยู่อย่างสงบในเขตชนบท ไม่เคยต้องถูกล่ามหรือใช้สายจูง และกิน "อาหารของคน" โบบีเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และไม่นานก่อนที่จะจากโลกนี้ไป โบบียังชอบออกไปเดินข้างนอกอยู่เสมอ แม้ว่าขนจะบางลง สายตาไม่เหมือนเดิม และต้องการนอนพักผ่อนมากขึ้นก็ตาม กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ระบุว่า สุนัขที่อายุยืนกว่า 30 ปีอย่างโบบี ถือเป็น "สิ่งมหัศจรรย์" Cr. https://www.voathai.com/a/bobi-world-s-oldest-dog-dies-in-portugal-aged-31/7323136.html #cutepet #dog
    Sad
    Like
    Love
    4
    0 Комментарии 0 Поделились 932 Просмотры
  • #วันนี้มีสาระ กับการเลือกสายจูงแบบรัดอกให้ตรงกับหลักสรีระศาสตร์ของสุนัข
    การเลือกสายรัดอกที่เหมาะสมคือการป้องกัน ดูแล และควบคุมสุนัข ทั้งเพื่อการฝึกและเดินในที่สาธารณะ โดยปกติแล้วควรเลือกและเน้นที่ความสบายตัวของสุนัข ปลอดภัยไม่หลุดง่าย แต่มีอีกสิ่งที่สำคัญคือสายรัดจะต้องไม่กดทับหัวไหล่ของสุนัข เพราะเมื่อเวลาเราใช้สายจูงที่กดทับไหล่สุนัข สุนัขจะมีการขัดขืน และเดินลำบาก ไม่สนุกกับการออกไปเดิน น่าเบื่อและไม่อยากออกไปทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคุณ เช่นกันกับเราที่เวลาสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูกกดรั้ง หรือรัดไหล่เป็นเวลานานๆ การไกวมือขณะเดินก็จะไม่สัมพันธ์กัน สุนัขของคุณๆก็รู้สึกเช่นกัน เพราะฉะนั้นอยู่ที่คุณๆแล้วละว่าจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีสำหรับเขาไหม
    จากใจ #CorgiHuahin

    Credit : "Study of Dog Movement of Jena University"
    #วันนี้มีสาระ กับการเลือกสายจูงแบบรัดอกให้ตรงกับหลักสรีระศาสตร์ของสุนัข การเลือกสายรัดอกที่เหมาะสมคือการป้องกัน ดูแล และควบคุมสุนัข ทั้งเพื่อการฝึกและเดินในที่สาธารณะ โดยปกติแล้วควรเลือกและเน้นที่ความสบายตัวของสุนัข ปลอดภัยไม่หลุดง่าย แต่มีอีกสิ่งที่สำคัญคือสายรัดจะต้องไม่กดทับหัวไหล่ของสุนัข เพราะเมื่อเวลาเราใช้สายจูงที่กดทับไหล่สุนัข สุนัขจะมีการขัดขืน และเดินลำบาก ไม่สนุกกับการออกไปเดิน น่าเบื่อและไม่อยากออกไปทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคุณ เช่นกันกับเราที่เวลาสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูกกดรั้ง หรือรัดไหล่เป็นเวลานานๆ การไกวมือขณะเดินก็จะไม่สัมพันธ์กัน สุนัขของคุณๆก็รู้สึกเช่นกัน เพราะฉะนั้นอยู่ที่คุณๆแล้วละว่าจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีสำหรับเขาไหม จากใจ #CorgiHuahin Credit : "Study of Dog Movement of Jena University"
    Like
    Love
    4
    0 Комментарии 1 Поделились 1Кб Просмотры