• รู้หรือไม่ว่าแมวสามารถรับรู้เสียงความถี่สูงกว่ามนุษย์มากถึงห้าสิบเท่า ทำให้พวกมันได้ยินเสียงของเหยื่อที่มนุษย์ไม่ได้ยินเลย คุณเคยสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของสัตว์เลี้ยงที่บ้านไหม มาเล่าแชร์ประสบการณ์กันได้เลยครับ

    #catlover #dailypet #petcare
    รู้หรือไม่ว่าแมวสามารถรับรู้เสียงความถี่สูงกว่ามนุษย์มากถึงห้าสิบเท่า ทำให้พวกมันได้ยินเสียงของเหยื่อที่มนุษย์ไม่ได้ยินเลย คุณเคยสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของสัตว์เลี้ยงที่บ้านไหม มาเล่าแชร์ประสบการณ์กันได้เลยครับ #catlover #dailypet #petcare
    0 Комментарии 0 Поделились 786 Просмотры
  • สายพันธุ์สุนัข: รู้จัก 30 สายพันธุ์หมายอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการเลี้ยงดู

    การเลือกสายพันธุ์สุนัขที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณและสุนัขของคุณมีความสุขร่วมกัน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์สุนัขกว่า 30 สายพันธุ์ พร้อมกับวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุนัขของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สายพันธุ์สุนัขยอดนิยม
    โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ - สุนัขที่มีนิสัยอ่อนโยนและเป็นมิตร
    ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ - เหมาะสำหรับครอบครัว มีพลังและขี้เล่น
    เยอรมันเชพเพิร์ด - สุนัขที่ฉลาดและมีความซื่อสัตย์
    บีเกิ้ล - ขนาดเล็ก น่ารัก และมีนิสัยขี้เล่น
    ชิห์ซุ - สุนัขขนาดเล็กที่รักการอยู่ใกล้ชิดเจ้าของ
    (และอีก 25 สายพันธุ์ที่น่าสนใจ)

    วิธีการเลี้ยงดูสุนัข
    การให้อาหาร: เลือกอาหารที่เหมาะสมกับสายพันธุ์และอายุของสุนัข
    การออกกำลังกาย: ให้สุนัขได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดี
    การฝึกอบรม: สอนคำสั่งพื้นฐานและพฤติกรรมที่ดีตั้งแต่ยังเล็ก
    การดูแลสุขภาพ: พาสุนัขไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ
    การเลี้ยงดูสุนัขนั้นไม่เพียงแต่ต้องการความรักและเอาใจใส่ แต่ยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์และความต้องการเฉพาะของพวกเขา หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์หมาและวิธีการดูแล สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่!

    https://www.baanlaesuan.com/tag/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82/
    สายพันธุ์สุนัข: รู้จัก 30 สายพันธุ์หมายอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการเลี้ยงดู การเลือกสายพันธุ์สุนัขที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณและสุนัขของคุณมีความสุขร่วมกัน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์สุนัขกว่า 30 สายพันธุ์ พร้อมกับวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุนัขของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ สายพันธุ์สุนัขยอดนิยม โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ - สุนัขที่มีนิสัยอ่อนโยนและเป็นมิตร ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ - เหมาะสำหรับครอบครัว มีพลังและขี้เล่น เยอรมันเชพเพิร์ด - สุนัขที่ฉลาดและมีความซื่อสัตย์ บีเกิ้ล - ขนาดเล็ก น่ารัก และมีนิสัยขี้เล่น ชิห์ซุ - สุนัขขนาดเล็กที่รักการอยู่ใกล้ชิดเจ้าของ (และอีก 25 สายพันธุ์ที่น่าสนใจ) วิธีการเลี้ยงดูสุนัข การให้อาหาร: เลือกอาหารที่เหมาะสมกับสายพันธุ์และอายุของสุนัข การออกกำลังกาย: ให้สุนัขได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดี การฝึกอบรม: สอนคำสั่งพื้นฐานและพฤติกรรมที่ดีตั้งแต่ยังเล็ก การดูแลสุขภาพ: พาสุนัขไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ การเลี้ยงดูสุนัขนั้นไม่เพียงแต่ต้องการความรักและเอาใจใส่ แต่ยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์และความต้องการเฉพาะของพวกเขา หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์หมาและวิธีการดูแล สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่! https://www.baanlaesuan.com/tag/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82/
    Like
    Love
    2
    0 Комментарии 0 Поделились 3Кб Просмотры
  • พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ!

    มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! พยาบาลสัตวแพทย์ เตือน 4 สายพันธุ์สุนัขสุดท้าทาย ที่ไม่เหมาะกับเจ้าของมือใหม่

    สำหรับใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขตัวแรกในชีวิต คงรู้ดีว่ามีสายพันธุ์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งตัวเล็ก ขนฟู ขี้เล่น หรือสายลุยพลังเยอะ แต่รู้หรือไม่... บางสายพันธุ์นั้นอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่เลย เพราะต้องใช้เวลา ความเข้าใจ และการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ

    "Jade" พยาบาลสัตวแพทย์จากอังกฤษ ซึ่งมักแชร์สาระเกี่ยวกับการดูแลสัตว์บนโซเชียลมีเดีย ได้ออกมาเตือนผ่าน TikTok ว่า มี 4 สายพันธุ์สุนัขที่เธอไม่แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงครั้งแรก เพราะอาจทำให้รู้สึกเหนื่อย ท้อ และหมดสนุกกับการเลี้ยงสุนัขไปเลย

    มาดูกันว่ามีพันธุ์ไหนบ้างที่ควร "เลี่ยง" ถ้ายังไม่พร้อม...

    1. Alaskan Malamute (อลาสกัน มาลามิวท์) : พลังเยอะ ช่างหอน ต้องการพื้นที่และการออกกำลังกายมาก

    สุนัขพันธุ์ใหญ่สายลุย หน้าตาคล้ายไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่ตัวใหญ่กว่าและพลังเยอะกว่ามาก ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อใช้งานหนักอย่างลากเลื่อนิแม้จะดูน่ารัก ขี้เล่น และจงรักภักดี แต่พวกมันต้องการเจ้าของที่มีพลังเหลือเฟือและพร้อมออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนี้ยัง "ช่างเห่า" และ "ช่างหอน" มาก จนอาจรบกวนเพื่อนบ้านได้ ถ้าไม่มีเวลาพาไปวิ่งหรือออกแรงเยอะๆ บอกเลยว่าสุนัขพันธุ์นี้จะเบื่อและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาได้ง่าย

    2. Chow Chow (เชาเชา) : ขี้ระแวง ฝึกยาก ขนหนา ไม่เหมาะกับอากาศร้อน

    หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาหมี แต่จริงๆ แล้วนิสัยไม่ได้นุ่มนวลอย่างที่คิด เชาเชาเป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยสนใจใคร และบางตัวอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามายุ่งด้วย ต้องการเจ้าของที่มีประสบการณ์ในการฝึก เพราะหากขาดการฝึกที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก อาจดื้อหรือไม่เชื่อฟังได้ง่าย ที่สำคัญ ยังมีแนวโน้มเป็นโรคเกี่ยวกับข้อและเอ็น เช่น สะโพกเสื่อม หรือเอ็นเข่าขาด ซึ่งทำให้เดินกะเผลกหรือเจ็บเรื้อรัง

    3. Border Collie (บอร์เดอร์ คอลลี่) : ฉลาดจัด แต่ต้องการกิจกรรมกระตุ้นสมองตลอด

    ขึ้นชื่อว่าเป็น “สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก” แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะความฉลาดก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นกัน บอร์เดอร์ คอลลี่ เป็นสุนัขทำงานที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ต้อนแกะ มีพลังงานเหลือล้นและต้องการกิจกรรมที่กระตุ้นสมองและร่างกายอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีเวลาพาออกกำลังกายหรือเล่นด้วยทุกวัน พวกเขาอาจหงุดหงิดและเริ่มมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเจ็บป่วยเรื่องข้อ และโรคทางตา เช่น ต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม

    4. Belgian Malinois (เบลเจียน มาลินัวส์) : เหมาะกับมือโปร ไม่ใช่หมาที่จะพาเดินชิลๆ ได้ทุกวัน

    สุนัขพันธุ์แกร่งจากเบลเยียม ที่นิยมใช้ในงานตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัย เพราะฉลาดและมีพลังงานสูงมาก ถ้าคุณคิดว่าแค่พาเดินรอบหมู่บ้านจะพอ ขอบอกว่า “ไม่พอแน่นอน” พวกเขาต้องการการออกกำลังกายแบบจัดหนัก เช่น วิ่งระยะไกล ปีนเขา หรือฝึกวินัยอย่างเข้มข้นทุกวัน หากไม่ได้รับการฝึกและออกกำลังกายเพียงพอ เบลเจียน มาลินัวส์อาจเครียดจนมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือหงุดหงิดง่าย และยังมีแนวโน้มเป็นโรคข้อ เช่น สะโพกเสื่อม และโรคตาอย่างต้อกระจก

    สุนัขเหล่านี้ “น่ารักแต่ดูแลไม่ง่าย” หากไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ หรือยังไม่ชำนาญในการฝึก อาจกลายเป็นความเครียดทั้งสำหรับคุณและน้องหมา

    สรุปง่ายๆ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง การมีสุนัขสักตัวเป็นเรื่องน่ารักและเติมเต็มชีวิตได้มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุนัขบางสายพันธุ์ต้องการเวลา การดูแล และความเข้าใจที่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของมือใหม่ ดังนั้น หากยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับพันธุ์ไหน ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียด หรือไปเยี่ยมชมศูนย์พักพิงสัตว์ก่อน เพราะมีสุนัขน่ารักๆ รอคนใจดีไปรับเลี้ยงอีกมากมาย
    https://www.sanook.com/news/9813490/
    พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! พยาบาลสัตวแพทย์ เตือน 4 สายพันธุ์สุนัขสุดท้าทาย ที่ไม่เหมาะกับเจ้าของมือใหม่ สำหรับใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขตัวแรกในชีวิต คงรู้ดีว่ามีสายพันธุ์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งตัวเล็ก ขนฟู ขี้เล่น หรือสายลุยพลังเยอะ แต่รู้หรือไม่... บางสายพันธุ์นั้นอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่เลย เพราะต้องใช้เวลา ความเข้าใจ และการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ "Jade" พยาบาลสัตวแพทย์จากอังกฤษ ซึ่งมักแชร์สาระเกี่ยวกับการดูแลสัตว์บนโซเชียลมีเดีย ได้ออกมาเตือนผ่าน TikTok ว่า มี 4 สายพันธุ์สุนัขที่เธอไม่แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงครั้งแรก เพราะอาจทำให้รู้สึกเหนื่อย ท้อ และหมดสนุกกับการเลี้ยงสุนัขไปเลย มาดูกันว่ามีพันธุ์ไหนบ้างที่ควร "เลี่ยง" ถ้ายังไม่พร้อม... 1. Alaskan Malamute (อลาสกัน มาลามิวท์) : พลังเยอะ ช่างหอน ต้องการพื้นที่และการออกกำลังกายมาก สุนัขพันธุ์ใหญ่สายลุย หน้าตาคล้ายไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่ตัวใหญ่กว่าและพลังเยอะกว่ามาก ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อใช้งานหนักอย่างลากเลื่อนิแม้จะดูน่ารัก ขี้เล่น และจงรักภักดี แต่พวกมันต้องการเจ้าของที่มีพลังเหลือเฟือและพร้อมออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนี้ยัง "ช่างเห่า" และ "ช่างหอน" มาก จนอาจรบกวนเพื่อนบ้านได้ ถ้าไม่มีเวลาพาไปวิ่งหรือออกแรงเยอะๆ บอกเลยว่าสุนัขพันธุ์นี้จะเบื่อและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาได้ง่าย 2. Chow Chow (เชาเชา) : ขี้ระแวง ฝึกยาก ขนหนา ไม่เหมาะกับอากาศร้อน หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาหมี แต่จริงๆ แล้วนิสัยไม่ได้นุ่มนวลอย่างที่คิด เชาเชาเป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยสนใจใคร และบางตัวอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามายุ่งด้วย ต้องการเจ้าของที่มีประสบการณ์ในการฝึก เพราะหากขาดการฝึกที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก อาจดื้อหรือไม่เชื่อฟังได้ง่าย ที่สำคัญ ยังมีแนวโน้มเป็นโรคเกี่ยวกับข้อและเอ็น เช่น สะโพกเสื่อม หรือเอ็นเข่าขาด ซึ่งทำให้เดินกะเผลกหรือเจ็บเรื้อรัง 3. Border Collie (บอร์เดอร์ คอลลี่) : ฉลาดจัด แต่ต้องการกิจกรรมกระตุ้นสมองตลอด ขึ้นชื่อว่าเป็น “สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก” แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะความฉลาดก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นกัน บอร์เดอร์ คอลลี่ เป็นสุนัขทำงานที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ต้อนแกะ มีพลังงานเหลือล้นและต้องการกิจกรรมที่กระตุ้นสมองและร่างกายอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีเวลาพาออกกำลังกายหรือเล่นด้วยทุกวัน พวกเขาอาจหงุดหงิดและเริ่มมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเจ็บป่วยเรื่องข้อ และโรคทางตา เช่น ต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม 4. Belgian Malinois (เบลเจียน มาลินัวส์) : เหมาะกับมือโปร ไม่ใช่หมาที่จะพาเดินชิลๆ ได้ทุกวัน สุนัขพันธุ์แกร่งจากเบลเยียม ที่นิยมใช้ในงานตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัย เพราะฉลาดและมีพลังงานสูงมาก ถ้าคุณคิดว่าแค่พาเดินรอบหมู่บ้านจะพอ ขอบอกว่า “ไม่พอแน่นอน” พวกเขาต้องการการออกกำลังกายแบบจัดหนัก เช่น วิ่งระยะไกล ปีนเขา หรือฝึกวินัยอย่างเข้มข้นทุกวัน หากไม่ได้รับการฝึกและออกกำลังกายเพียงพอ เบลเจียน มาลินัวส์อาจเครียดจนมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือหงุดหงิดง่าย และยังมีแนวโน้มเป็นโรคข้อ เช่น สะโพกเสื่อม และโรคตาอย่างต้อกระจก สุนัขเหล่านี้ “น่ารักแต่ดูแลไม่ง่าย” หากไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ หรือยังไม่ชำนาญในการฝึก อาจกลายเป็นความเครียดทั้งสำหรับคุณและน้องหมา สรุปง่ายๆ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง การมีสุนัขสักตัวเป็นเรื่องน่ารักและเติมเต็มชีวิตได้มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุนัขบางสายพันธุ์ต้องการเวลา การดูแล และความเข้าใจที่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของมือใหม่ ดังนั้น หากยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับพันธุ์ไหน ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียด หรือไปเยี่ยมชมศูนย์พักพิงสัตว์ก่อน เพราะมีสุนัขน่ารักๆ รอคนใจดีไปรับเลี้ยงอีกมากมาย https://www.sanook.com/news/9813490/
    WWW.SANOOK.COM
    พยาบาลสัตว์เตือน เลี้ยงสุนัขครั้งแรก "หลีกเลี่ยง" น้องหมา 4 สายพันธุ์นี้ มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ!
    มือใหม่อย่าเพิ่งรีบ! 4 สายพันธุ์สุนัขที่ "ไม่เหมาะ" กับเจ้าของมือใหม่ พยาบาลสัตวแพทย์เตือน ดูแลยากกว่าที่คิด
    0 Комментарии 0 Поделились 3Кб Просмотры

  • "Airedale ดื้อขั้นเทพ แต่น่ารักขั้นสุด: มีหมาเหมือนมีเพื่อนหัวแข็งที่รักคุณสุดใจ"


    คุณเคยมีเพื่อนที่ทั้งรักทั้งหมั่นไส้ไหม?
    เพื่อนที่คุณพูดซ้าย แต่เขาเดินขวา
    คุณบอก “อย่า” แต่เขาก็ “ทำ” … แต่พอคุณโกรธ เขาก็มายิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    นั่นแหละครับคือชีวิตคนเลี้ยง **Airedale Terrier**
    หมาสายพันธุ์ที่ถูกขนานนามว่า *“King of Terriers”* ไม่ใช่เพราะเป็นราชาหมาที่ฟังคำสั่งทุกอย่าง แต่เพราะมันมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากกกกก (ลากเสียงตามความดื้อ)

    ---

    **เรื่องเล่า: วันแรกที่ผมเจอความดื้อของ Airedale**

    ผมเคยพาเจ้า “เจมส์” (Airedale ของผม) ไปฝึกให้ “นั่ง”
    ตอนแรกมันนั่งนะครับ… แต่ 2 วินาทีถัดมา มันก็ลุกเดินไปคาบรองเท้าผมเหมือนกำลังบอกว่า

    > “โอเคพี่ ผมนั่งแล้วนะ ทีนี้ผมไปทำธุระของผมต่อ”

    แม้จะหัวรั้น แต่คุณจะทนโกรธมันไม่ได้นาน เพราะมันจะเดินกลับมานั่งใกล้ ๆ แล้วเอาหน้าแตะเข่าคุณแบบน่ารักสุด ๆ

    ---

    **ข้อเท็จจริง & สถิติ**

    * **อันดับความดื้อ:** Airedale ติด Top 10 ของสายพันธุ์หมาที่ “ดื้อ” แต่ “ฉลาด” (ข้อมูลจาก *Stanley Coren’s The Intelligence of Dogs*)
    * **พลังงานสูง:** หมาพันธุ์นี้ต้องการการออกกำลังกายอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมงต่อวัน
    * **ฉลาดมาก:** เข้าใจคำสั่งใหม่ ๆ ได้ใน 15–25 ครั้ง แต่จะทำหรือไม่ทำ…ขึ้นอยู่กับอารมณ์

    ---

    **ข้อควรรู้ในการเลี้ยง Airedale Terrier**

    1. **ต้องฝึกตั้งแต่เล็ก** – ฝึกคำสั่งพื้นฐานทันทีที่รับมาเลี้ยง
    2. **ใช้การฝึกเชิงบวก (Positive Reinforcement)** – ให้ขนม คำชม และการเล่น
    3. **อย่าคาดหวังว่าจะฟัง 100%** – Airedale จะฟังเมื่อมัน “อยากฟัง” เท่านั้น
    4. **เล่นเยอะ ๆ** – กิจกรรมที่ได้ใช้สมองและร่างกายช่วยลดพฤติกรรมดื้อ

    ---

    **เคล็ดลับเอาชนะความดื้อ**

    * เปลี่ยนกิจวัตรบ่อย ๆ เพื่อให้มันไม่เบื่อ
    * สลับเกมฝึกสมอง เช่น เกมซ่อนขนม หรือฝึกค้นหา
    * ใช้ของเล่นแบบ Puzzle Toy เพื่อกระตุ้นความคิด

    ---

    **"ดื้อแต่รัก"

    > ดื้อก็รัก ดุแค่ไหนก็ห่วง
    > หัวแข็งแต่หัวใจไม่เคยลวง
    > Airedale ตัวนี้คือเพื่อนแท้ในทุกช่วง
    > แม้บางครั้ง…ทำเราหัวฟาดขอบโต๊ะด้วยความป่วง

    ---

    **แหล่งข้อมูลอ้างอิง**

    1. Coren, S. *The Intelligence of Dogs*. Free Press, 2006.
    2. American Kennel Club – *Airedale Terrier Dog Breed Information* – [akc.org](https://www.akc.org)
    3. Terrier Training Club – *Handling Stubborn Breeds Effectively*

    ---


    * **หลัก:** #AiredaleTerrier #ดื้อแต่รัก #หมาหัวแข็งน่ารัก #KingOfTerriers
    * **เสริม:** #หมาน่ารัก #เลี้ยงหมาอย่างมีความสุข #DogTrainingTips #หมาฉลาด
    * **เฉพาะกลุ่ม:** #สายTerrier #ดื้อแต่ใจดี #AiredaleLife


    * Airedale Terrier ดื้อ
    * เลี้ยง Airedale Terrier
    * Airedale Terrier stubborn but sweet
    * วิธีฝึก Airedale Terrier
    * ข้อดีข้อเสีย Airedale Terrier


    🐾 "Airedale ดื้อขั้นเทพ แต่น่ารักขั้นสุด: มีหมาเหมือนมีเพื่อนหัวแข็งที่รักคุณสุดใจ" คุณเคยมีเพื่อนที่ทั้งรักทั้งหมั่นไส้ไหม? เพื่อนที่คุณพูดซ้าย แต่เขาเดินขวา คุณบอก “อย่า” แต่เขาก็ “ทำ” … แต่พอคุณโกรธ เขาก็มายิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นแหละครับคือชีวิตคนเลี้ยง **Airedale Terrier** หมาสายพันธุ์ที่ถูกขนานนามว่า *“King of Terriers”* ไม่ใช่เพราะเป็นราชาหมาที่ฟังคำสั่งทุกอย่าง แต่เพราะมันมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากกกกก (ลากเสียงตามความดื้อ) 😂 --- 🐶 **เรื่องเล่า: วันแรกที่ผมเจอความดื้อของ Airedale** ผมเคยพาเจ้า “เจมส์” (Airedale ของผม) ไปฝึกให้ “นั่ง” ตอนแรกมันนั่งนะครับ… แต่ 2 วินาทีถัดมา มันก็ลุกเดินไปคาบรองเท้าผมเหมือนกำลังบอกว่า > “โอเคพี่ ผมนั่งแล้วนะ ทีนี้ผมไปทำธุระของผมต่อ” แม้จะหัวรั้น แต่คุณจะทนโกรธมันไม่ได้นาน เพราะมันจะเดินกลับมานั่งใกล้ ๆ แล้วเอาหน้าแตะเข่าคุณแบบน่ารักสุด ๆ --- 📊 **ข้อเท็จจริง & สถิติ** * **อันดับความดื้อ:** Airedale ติด Top 10 ของสายพันธุ์หมาที่ “ดื้อ” แต่ “ฉลาด” (ข้อมูลจาก *Stanley Coren’s The Intelligence of Dogs*) * **พลังงานสูง:** หมาพันธุ์นี้ต้องการการออกกำลังกายอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมงต่อวัน * **ฉลาดมาก:** เข้าใจคำสั่งใหม่ ๆ ได้ใน 15–25 ครั้ง แต่จะทำหรือไม่ทำ…ขึ้นอยู่กับอารมณ์ 🤭 --- 🛠️ **ข้อควรรู้ในการเลี้ยง Airedale Terrier** 1. **ต้องฝึกตั้งแต่เล็ก** – ฝึกคำสั่งพื้นฐานทันทีที่รับมาเลี้ยง 2. **ใช้การฝึกเชิงบวก (Positive Reinforcement)** – ให้ขนม คำชม และการเล่น 3. **อย่าคาดหวังว่าจะฟัง 100%** – Airedale จะฟังเมื่อมัน “อยากฟัง” เท่านั้น 4. **เล่นเยอะ ๆ** – กิจกรรมที่ได้ใช้สมองและร่างกายช่วยลดพฤติกรรมดื้อ --- 💡 **เคล็ดลับเอาชนะความดื้อ** * เปลี่ยนกิจวัตรบ่อย ๆ เพื่อให้มันไม่เบื่อ * สลับเกมฝึกสมอง เช่น เกมซ่อนขนม หรือฝึกค้นหา * ใช้ของเล่นแบบ Puzzle Toy เพื่อกระตุ้นความคิด --- **"ดื้อแต่รัก" > ดื้อก็รัก ดุแค่ไหนก็ห่วง > หัวแข็งแต่หัวใจไม่เคยลวง > Airedale ตัวนี้คือเพื่อนแท้ในทุกช่วง > แม้บางครั้ง…ทำเราหัวฟาดขอบโต๊ะด้วยความป่วง --- 📚 **แหล่งข้อมูลอ้างอิง** 1. Coren, S. *The Intelligence of Dogs*. Free Press, 2006. 2. American Kennel Club – *Airedale Terrier Dog Breed Information* – [akc.org](https://www.akc.org) 3. Terrier Training Club – *Handling Stubborn Breeds Effectively* --- * **หลัก:** #AiredaleTerrier #ดื้อแต่รัก #หมาหัวแข็งน่ารัก #KingOfTerriers * **เสริม:** #หมาน่ารัก #เลี้ยงหมาอย่างมีความสุข #DogTrainingTips #หมาฉลาด * **เฉพาะกลุ่ม:** #สายTerrier #ดื้อแต่ใจดี #AiredaleLife * Airedale Terrier ดื้อ * เลี้ยง Airedale Terrier * Airedale Terrier stubborn but sweet * วิธีฝึก Airedale Terrier * ข้อดีข้อเสีย Airedale Terrier
    Like
    1
    0 Комментарии 0 Поделились 4Кб Просмотры
  • **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"**

    ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก”
    ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ

    แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ

    ---

    **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?**

    วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน
    ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง
    สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง

    ---

    **สถิติจากแหล่งข้อมูล**

    * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า
    สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก
    * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%**

    ---

    **ข้อดีที่ผมเจอ**

    1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด
    2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง
    3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง

    ---

    **ข้อควรรู้**

    * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข
    * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน
    * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ

    ---

    **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา**

    * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี
    * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน
    * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน

    ---

    > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง
    > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง
    > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง
    > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ

    ---

    ## **แหล่งข้อมูลอ้างอิง**

    1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk)
    2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study*
    3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org)

    ---

    * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข
    * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ#สายจูงดีต่อใจ
    * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview

    ---


    * รีวิวสายจูงกันดึง
    * Anti-Pull Leash ดีไหม
    * วิธีเลือกสายจูงหมา
    * สายจูงหมาไม่ดึง
    * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา

    🐕‍🦺 **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"** ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก” 😅 ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ --- 🦴 **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?** วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง 😮 สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง --- 📊 **สถิติจากแหล่งข้อมูล** * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%** --- 🛠️ **ข้อดีที่ผมเจอ** 1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด 2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง 3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง --- ⚠️ **ข้อควรรู้** * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ --- 💡 **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา** * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน --- > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ --- ## 📚 **แหล่งข้อมูลอ้างอิง** 1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk) 2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study* 3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org) --- * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ่ #สายจูงดีต่อใจ * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview --- * รีวิวสายจูงกันดึง * Anti-Pull Leash ดีไหม * วิธีเลือกสายจูงหมา * สายจูงหมาไม่ดึง * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา
    0 Комментарии 0 Поделились 5Кб Просмотры
  • 5 ขั้นตอนการดูแลสุนัขหน้าฝน

    **ฤดูฝนมาแล้ว อย่าปล่อยให้น้องป่วย!**

    หน้าฝนไม่เพียงแต่ทำให้คนไม่สบายใจ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ “สุนัข” ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ จากข้อมูลของ **กรมปศุสัตว์** และ **สมาคมสัตวแพทย์สัตว์เล็ก (VPAT)** ระบุว่า:

    > **กว่า 30% ของโรคผิวหนังและปัญหาเห็บหมัดในสุนัข มักพบบ่อยในช่วงฤดูฝน**
    > และมีรายงานว่า **อัตราการติดพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18–20% ในช่วงฤดูฝน** (แหล่งข้อมูล: VPAT, 2023)

    ดังนั้น การดูแลเชิงป้องกันจึงสำคัญกว่าการรักษา และนี่คือ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่เจ้าของสุนัขทุกคนควรรู้!

    ---

    ### 1. “กันเปียกไว้ก่อน” คือหัวใจ

    การป้องกันไม่ให้น้องเปียกฝนคือด่านแรก

    * ใช้เสื้อกันฝนสำหรับสุนัข หรือร่มพกพา
    * หลีกเลี่ยงสนามหญ้าชื้น และพื้นที่น้ำขังที่อาจมี **พยาธิใบไม้ในเลือด หรือเชื้อเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)** ซึ่งติดต่อได้ผ่านผิวหนังและทางเดินปัสสาวะ

    *Leptospirosis เป็นโรคที่มีความเสี่ยงทั้งต่อสัตว์และคน โดยในปี 2566 พบผู้ป่วยสัตว์กว่า 5,000 รายในเขตร้อนชื้น (อ้างอิง: สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ)*

    ---

    ### 2. เช็ดให้แห้ง ดีกว่ารักษาทีหลัง

    หลังน้องหมาเปียกฝน อย่าปล่อยให้ขนชื้นนาน เพราะความชื้นคือแหล่งสะสมของ

    * เชื้อรา (Malassezia spp.)
    * กลากเกลื้อน
    * แบคทีเรียผิวหนัง (Staphylococcus spp.)

    **คำแนะนำจากสัตวแพทย์:**

    > "ควรใช้ผ้าแห้งซับก่อน แล้วใช้ไดร์เป่าลมอุ่นให้ขนแห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเท้า รักแร้ ใต้ท้อง และหู" – VPAT

    ---

    ### 3. สะอาดเข้าไว้ ปลอดภัยไว้ก่อน

    ตามรายงานจากกรมปศุสัตว์ (2565):

    > “กว่า 45% ของการติดเห็บหมัดในบ้านเกิดจากความชื้นสะสมในที่นอนสัตว์เลี้ยง”

    **ทางป้องกันง่าย ๆ คือ:**

    * เปลี่ยนผ้าปูที่นอนน้องหมาเป็นประจำ
    * ล้างชามอาหาร-น้ำ และตากแดด
    * เช็ดพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง

    ---

    ### 4. ป้องกันโรค อย่ารอให้ป่วย

    * พยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm) พบมากในหน้าฝน เพราะยุงชุกชุม
    * ควรหยดยาหรือฉีดยากันพยาธิเป็นประจำทุกเดือน
    * เช็กประวัติวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะวัคซีน 5 โรค (รวมไข้หัดและเลปโตสไปโรซิส)

    *ข้อมูลจากคลินิกสัตว์เล็ก ม.เกษตรศาสตร์ ระบุว่า:
    “สุนัขที่ไม่ได้ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 50% หากติดเชื้อแบบเฉียบพลัน”*

    ---

    ### 5. สังเกตอาการ…มากกว่าความน่ารัก

    การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของน้องหมาเป็นสิ่งสำคัญ

    * หากพบอาการ: ซึม อาเจียน ไอเรื้อรัง ขนร่วงเป็นหย่อม หรือเลียตัวผิดปกติ
    * ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

    จากการสำรวจของ PetMed 2023:

    > “เจ้าของที่พาน้องไปพบสัตวแพทย์ภายใน 48 ชม. หลังพบอาการผิดปกติ มีโอกาสรักษาหายสูงถึง 92%”

    ---

    หน้าฝนอาจเปียก แต่ถ้าหัวใจเราห่วงใยน้องอย่างแท้จริง ทุกฤดูกาลก็ปลอดภัยและอบอุ่นได้เสมอ
    **แค่ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้ ก็ช่วยให้น้องหมาของคุณแข็งแรงทั้งร่างกายและหัวใจ!**


    🐶 5 ขั้นตอนการดูแลสุนัขหน้าฝน **ฤดูฝนมาแล้ว อย่าปล่อยให้น้องป่วย!** หน้าฝนไม่เพียงแต่ทำให้คนไม่สบายใจ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ “สุนัข” ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ จากข้อมูลของ **กรมปศุสัตว์** และ **สมาคมสัตวแพทย์สัตว์เล็ก (VPAT)** ระบุว่า: > 🦠 **กว่า 30% ของโรคผิวหนังและปัญหาเห็บหมัดในสุนัข มักพบบ่อยในช่วงฤดูฝน** > 💉 และมีรายงานว่า **อัตราการติดพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18–20% ในช่วงฤดูฝน** (แหล่งข้อมูล: VPAT, 2023) ดังนั้น การดูแลเชิงป้องกันจึงสำคัญกว่าการรักษา และนี่คือ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่เจ้าของสุนัขทุกคนควรรู้! --- ### ☔ 1. “กันเปียกไว้ก่อน” คือหัวใจ การป้องกันไม่ให้น้องเปียกฝนคือด่านแรก * ใช้เสื้อกันฝนสำหรับสุนัข หรือร่มพกพา * หลีกเลี่ยงสนามหญ้าชื้น และพื้นที่น้ำขังที่อาจมี **พยาธิใบไม้ในเลือด หรือเชื้อเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)** ซึ่งติดต่อได้ผ่านผิวหนังและทางเดินปัสสาวะ 📌 *Leptospirosis เป็นโรคที่มีความเสี่ยงทั้งต่อสัตว์และคน โดยในปี 2566 พบผู้ป่วยสัตว์กว่า 5,000 รายในเขตร้อนชื้น (อ้างอิง: สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ)* --- ### 🧴 2. เช็ดให้แห้ง ดีกว่ารักษาทีหลัง หลังน้องหมาเปียกฝน อย่าปล่อยให้ขนชื้นนาน เพราะความชื้นคือแหล่งสะสมของ * เชื้อรา (Malassezia spp.) * กลากเกลื้อน * แบคทีเรียผิวหนัง (Staphylococcus spp.) **คำแนะนำจากสัตวแพทย์:** > "ควรใช้ผ้าแห้งซับก่อน แล้วใช้ไดร์เป่าลมอุ่นให้ขนแห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเท้า รักแร้ ใต้ท้อง และหู" – VPAT --- ### 🧼 3. สะอาดเข้าไว้ ปลอดภัยไว้ก่อน ตามรายงานจากกรมปศุสัตว์ (2565): > “กว่า 45% ของการติดเห็บหมัดในบ้านเกิดจากความชื้นสะสมในที่นอนสัตว์เลี้ยง” **ทางป้องกันง่าย ๆ คือ:** * เปลี่ยนผ้าปูที่นอนน้องหมาเป็นประจำ * ล้างชามอาหาร-น้ำ และตากแดด * เช็ดพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง --- ### 🦟 4. ป้องกันโรค อย่ารอให้ป่วย * พยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm) พบมากในหน้าฝน เพราะยุงชุกชุม * ควรหยดยาหรือฉีดยากันพยาธิเป็นประจำทุกเดือน * เช็กประวัติวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะวัคซีน 5 โรค (รวมไข้หัดและเลปโตสไปโรซิส) 📊 *ข้อมูลจากคลินิกสัตว์เล็ก ม.เกษตรศาสตร์ ระบุว่า: “สุนัขที่ไม่ได้ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 50% หากติดเชื้อแบบเฉียบพลัน”* --- ### 👀 5. สังเกตอาการ…มากกว่าความน่ารัก การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของน้องหมาเป็นสิ่งสำคัญ * หากพบอาการ: ซึม อาเจียน ไอเรื้อรัง ขนร่วงเป็นหย่อม หรือเลียตัวผิดปกติ * ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที 🔎 จากการสำรวจของ PetMed 2023: > “เจ้าของที่พาน้องไปพบสัตวแพทย์ภายใน 48 ชม. หลังพบอาการผิดปกติ มีโอกาสรักษาหายสูงถึง 92%” --- หน้าฝนอาจเปียก แต่ถ้าหัวใจเราห่วงใยน้องอย่างแท้จริง ทุกฤดูกาลก็ปลอดภัยและอบอุ่นได้เสมอ **แค่ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้ ก็ช่วยให้น้องหมาของคุณแข็งแรงทั้งร่างกายและหัวใจ!** 🧡
    Like
    1
    0 Комментарии 0 Поделились 2Кб Просмотры
  • 7 พฤติกรรมน้องหมากำลังบอกอะไรเรา?

    พฤติกรรมที่ชวนสงสัยของน้องหมา
    วันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ ^^
    7 พฤติกรรมน้องหมากำลังบอกอะไรเรา? พฤติกรรมที่ชวนสงสัยของน้องหมา วันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ ^^
    Love
    1
    1 Комментарии 0 Поделились 498 Просмотры
  • อย่าใส่ปลอกคอที่มีกระดิ่งให้แมวเลยนะ! เพราะว่า...

    แมวอาจจะดูน่ารักเวลาใส่ปลอกคอกระดิ่ง แต่รู้ไหมว่า "เสียงกุ๊งกิ๊ง" ที่เราคิดว่าน่ารักนั้น อาจทำให้แมวเครียดโดยไม่รู้ตัว!
    เสียงกระดิ่งดังใกล้หูตลอดเวลา ทำให้แมวรู้สึกถูกรบกวนทั้งเวลาเดิน วิ่ง หรือแม้แต่เวลานอน

    โดยเฉพาะแมวเป็นสัตว์ที่หูไวมาก ได้ยินเสียงชัดกว่าคนหลายเท่า เสียงกระดิ่งอาจทำให้เขาหงุดหงิด หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น
    – เครียดง่าย
    – พฤติกรรมเปลี่ยน
    – มีปัญหาเรื่องการได้ยิน

    แนะนำว่า ถ้าอยากให้แมวใส่ปลอกคอ เลือกแบบนุ่ม เบา ไม่มีเสียง และควรเป็นแบบปลดล็อกได้ง่ายหากติดอะไร จะปลอดภัยกว่าเยอะเลยนะ

    #ทาสแมวควรรู้ #เลี้ยงแมวอย่างเข้าใจ #ปลอกคอแมว #แมวเครียด #กระดิ่งไม่ได้น่ารักเสมอไป #YourpetTips

    ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
    https://www.facebook.com/share/p/1HUhrAA1XK/
    🐾 อย่าใส่ปลอกคอที่มีกระดิ่งให้แมวเลยนะ! เพราะว่า... 🐱🔕 แมวอาจจะดูน่ารักเวลาใส่ปลอกคอกระดิ่ง แต่รู้ไหมว่า "เสียงกุ๊งกิ๊ง" ที่เราคิดว่าน่ารักนั้น อาจทำให้แมวเครียดโดยไม่รู้ตัว! เสียงกระดิ่งดังใกล้หูตลอดเวลา ทำให้แมวรู้สึกถูกรบกวนทั้งเวลาเดิน วิ่ง หรือแม้แต่เวลานอน 😿 โดยเฉพาะแมวเป็นสัตว์ที่หูไวมาก ได้ยินเสียงชัดกว่าคนหลายเท่า เสียงกระดิ่งอาจทำให้เขาหงุดหงิด หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น – เครียดง่าย – พฤติกรรมเปลี่ยน – มีปัญหาเรื่องการได้ยิน แนะนำว่า ถ้าอยากให้แมวใส่ปลอกคอ เลือกแบบนุ่ม เบา ไม่มีเสียง และควรเป็นแบบปลดล็อกได้ง่ายหากติดอะไร จะปลอดภัยกว่าเยอะเลยนะ ❤️ #ทาสแมวควรรู้ #เลี้ยงแมวอย่างเข้าใจ #ปลอกคอแมว #แมวเครียด #กระดิ่งไม่ได้น่ารักเสมอไป #YourpetTips 👇ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก👇 https://www.facebook.com/share/p/1HUhrAA1XK/
    Love
    Like
    Wow
    4
    6 Комментарии 0 Поделились 2Кб Просмотры
  • อาการแมวท้องสามารถสังเกตได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและพฤติกรรมของแมว หากแมวตั้งท้อง หัวนมจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีชมพู หรืออาจมีอาการแพ้ท้องเล็กน้อย เช่น อาเจียน หรือเบื่ออาหาร นอกจากนี้ แมวอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น นอนมากขึ้น หรือขี้อ้อนมากขึ้น
    อาการแมวท้องสามารถสังเกตได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและพฤติกรรมของแมว หากแมวตั้งท้อง หัวนมจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีชมพู หรืออาจมีอาการแพ้ท้องเล็กน้อย เช่น อาเจียน หรือเบื่ออาหาร นอกจากนี้ แมวอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น นอนมากขึ้น หรือขี้อ้อนมากขึ้น
    Like
    Love
    Haha
    8
    7 Комментарии 0 Поделились 963 Просмотры
  • อาการน้อยใจของแมวอาจแสดงออกมาในหลายรูปแบบ เช่น การซ่อนตัว การไม่กินอาหาร การร้องเสียงดัง หรือการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่ปกติ.
    อาการที่บ่งบอกว่าแมวอาจกำลังน้อยใจ:
    การซ่อนตัว:
    แมวอาจหลบไปซ่อนตัวในที่ที่รู้สึกปลอดภัย เช่น ใต้เตียง ใต้โซฟา หรือในที่มืด
    การไม่กินอาหาร:
    แมวอาจปฏิเสธอาหารที่เคยชอบ หรือกินน้อยลงกว่าปกติ
    การร้องเสียงดัง:
    แมวอาจร้องเสียงดังผิดปกติ หรือร้องบ่อยกว่าเดิม
    พฤติกรรมก้าวร้าว:
    แมวอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ข่วน หรือกัด
    อาการน้อยใจของแมวอาจแสดงออกมาในหลายรูปแบบ เช่น การซ่อนตัว การไม่กินอาหาร การร้องเสียงดัง หรือการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่ปกติ. อาการที่บ่งบอกว่าแมวอาจกำลังน้อยใจ: การซ่อนตัว: แมวอาจหลบไปซ่อนตัวในที่ที่รู้สึกปลอดภัย เช่น ใต้เตียง ใต้โซฟา หรือในที่มืด การไม่กินอาหาร: แมวอาจปฏิเสธอาหารที่เคยชอบ หรือกินน้อยลงกว่าปกติ การร้องเสียงดัง: แมวอาจร้องเสียงดังผิดปกติ หรือร้องบ่อยกว่าเดิม พฤติกรรมก้าวร้าว: แมวอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ข่วน หรือกัด
    Love
    Wow
    4
    2 Комментарии 1 Поделились 1Кб Просмотры
  • ไขข้อสงสัยพฤติกรรมแมว
    เมื่อคุณเข้าใจพฤติกรรมแมวเบื้องต้นแล้ว คุณก็จะพอจับสัญญาณอารมณ์ของแมวได้ ถ้าต้องการหาคำอธิบายพฤติกรรมแมว ลองศึกษาคำแนะนำจาก Purina ที่อธิบายรายละเอียดเพื่อให้คุณสามารถสื่อสารภาษาแมวได้
    ไขข้อสงสัยพฤติกรรมแมว เมื่อคุณเข้าใจพฤติกรรมแมวเบื้องต้นแล้ว คุณก็จะพอจับสัญญาณอารมณ์ของแมวได้ ถ้าต้องการหาคำอธิบายพฤติกรรมแมว ลองศึกษาคำแนะนำจาก Purina ที่อธิบายรายละเอียดเพื่อให้คุณสามารถสื่อสารภาษาแมวได้
    Love
    2
    1 Комментарии 0 Поделились 468 Просмотры