• นุดให้ไว นุด อย่าให้หมาต้องขึ้นนะ

    #cutepet #dog #snow
    นุดให้ไว นุด อย่าให้หมาต้องขึ้นนะ 🤣🤣 #cutepet #dog #snow
    Like
    Love
    Haha
    3
    0 Комментарии 0 Поделились 3Кб Просмотры
  • **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"**

    ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก”
    ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ

    แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ

    ---

    **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?**

    วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน
    ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง
    สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง

    ---

    **สถิติจากแหล่งข้อมูล**

    * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า
    สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก
    * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%**

    ---

    **ข้อดีที่ผมเจอ**

    1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด
    2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง
    3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง

    ---

    **ข้อควรรู้**

    * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข
    * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน
    * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ

    ---

    **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา**

    * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี
    * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน
    * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน

    ---

    > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง
    > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง
    > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง
    > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ

    ---

    ## **แหล่งข้อมูลอ้างอิง**

    1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk)
    2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study*
    3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org)

    ---

    * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข
    * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ#สายจูงดีต่อใจ
    * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview

    ---


    * รีวิวสายจูงกันดึง
    * Anti-Pull Leash ดีไหม
    * วิธีเลือกสายจูงหมา
    * สายจูงหมาไม่ดึง
    * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา

    🐕‍🦺 **"หมาไม่ดึงให้เมื่อยแขน! รีวิวสายจูงกันดึงที่ผมลองแล้วโคตรเวิร์ก"** ใครเลี้ยงหมาพลังเยอะจะรู้ดีว่า… การพาหมาไปเดินเล่นบางครั้งไม่ต่างอะไรกับการไป “ฝึกแข่งดึงเชือกโอลิมปิก” 😅 ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเกือบโดนลากไปกองกับพื้นเพราะเจ้าบรูโน่ หมาพันธุ์ผสมตัวใหญ่ที่ใจรักการสปรินท์ ทุกครั้งที่เห็นนกพิราบ แล้วผมก็ได้ลอง **สายจูงกันดึง (Anti-Pull Leash)** ที่เขาว่ากันว่าช่วยลดแรงดึงของหมาได้จริง … และนี่คือประสบการณ์จริง + ข้อมูลที่ผมขุดมาให้คุณ --- 🦴 **เรื่องเล่า + รีวิว: Anti-Pull Leash ของจริงหรือมโน?** วันแรกที่ลอง ผมใส่สายให้บรูโน่เดินออกจากบ้าน ปกติแค่พ้นประตูบ้านผมก็ต้องเกร็งแขนแล้ว แต่คราวนี้…มันเบาลงชัดเจน แรงดึงลดลงเกือบครึ่ง 😮 สาเหตุเพราะโครงสร้างของสายจูงกันดึงมักจะเป็นแบบ **Harness (คล้องอก)** หรือแบบ **Head Collar (คล้องหัว)** ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและเปลี่ยนทิศทางแรงดึง ทำให้หมาสงบลง --- 📊 **สถิติจากแหล่งข้อมูล** * จากการทดลองของ **Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA)** พบว่า สุนัขที่ใช้ **สายจูงกันดึง** แรงดึงลดลงเฉลี่ย **50–60%** ภายใน 2 สัปดาห์แรก * งานวิจัยของ *Applied Animal Behaviour Science* ชี้ว่า การใช้สายกันดึงคู่กับการฝึกคำสั่งพื้นฐาน ทำให้พฤติกรรมลากเจ้าของลดลงกว่า **70%** --- 🛠️ **ข้อดีที่ผมเจอ** 1. แขนไม่ล้า ไม่ต้องกลัวข้อไหล่หลุด 2. หมาดูสงบขึ้น เพราะถูกเบี่ยงแรงดึง 3. เหมาะสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่และหมาพลังงานสูง --- ⚠️ **ข้อควรรู้** * ต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับน้ำหนักและรอบอกสุนัข * ใช้คู่กับการฝึกคำสั่ง เช่น “ช้า” หรือ “อยู่” เพื่อให้ได้ผลยาวนาน * อย่าดึงกระชากแรง เพราะอาจทำให้หมาตกใจหรือบาดเจ็บ --- 💡 **เคล็ดลับคนเลี้ยงหมา** * เลือกสายที่มี **วัสดุนุ่ม + ระบายอากาศ** ป้องกันเสียดสี * ถ้าเป็นหมาชอบเคี้ยว เลือกแบบสายไนลอนหนา หรือมีหุ้มเหล็กบางส่วน * ฝึกให้หมาคุ้นเคยกับสายก่อนออกเดินจริง 1–2 วัน --- > เดินด้วยกัน ไม่ต้องดึงให้แรง > เจ้าของยิ้ม หมาก็ยิ้ม แฮปปี้กันทั้งแกง > สายกันดึงช่วยให้เดินได้อย่างมีแรง > แต่ไม่ต้องแข่ง ใครดึงใครชนะ --- ## 📚 **แหล่งข้อมูลอ้างอิง** 1. RSPCA – *Dog Harness and Leash Research Findings* – [rspca.org.uk](https://www.rspca.org.uk) 2. Applied Animal Behaviour Science – *Leash Pulling Reduction Study* 3. American Kennel Club – *Choosing the Right Harness for Your Dog* – [akc.org](https://www.akc.org) --- * **หลัก:** #รีวิวสายจูงกันดึง #ฝึกหมา #DogLeashReview #สายจูงหมา #เลี้ยงหมาให้มีความสุข * **เสริม:** #หมาไม่ดึง #หมาวินัยดี #DogTrainingTips #หมาใหญ่ #สายจูงดีต่อใจ * **เฉพาะกลุ่ม:** #หมาพลังเยอะ #DogWalkingGear #PetProductReview --- * รีวิวสายจูงกันดึง * Anti-Pull Leash ดีไหม * วิธีเลือกสายจูงหมา * สายจูงหมาไม่ดึง * รีวิวอุปกรณ์ฝึกหมา
    0 Комментарии 0 Поделились 4Кб Просмотры
  • ** หม่าม้าพาดูฟาร์มเฟรนช์ บูลด็อก — สุนัขที่ใครหลายคนฝันอยากเลี้ยง!**
    พาเที่ยวฟาร์ม ดูความน่ารักแบบใกล้ชิด เหมาะสำหรับคนรักหมาตัวจริง

    ติดต่อโดยตรง: **062-473-7277**
    Fanpage: **facebook.com/thisismymama**
    Email: **[supitsara.t@slm.co.th](mailto:supitsara.t@slm.co.th)**

    \#เกษียณสำราญ #FrenchBulldog #ฟาร์มสุนัข #หมาน่ารัก #คนรักหมา

    https://www.youtube.com/watch?v=UI4HLwiqgBo
    **🐶 หม่าม้าพาดูฟาร์มเฟรนช์ บูลด็อก — สุนัขที่ใครหลายคนฝันอยากเลี้ยง!** ✨ พาเที่ยวฟาร์ม ดูความน่ารักแบบใกล้ชิด เหมาะสำหรับคนรักหมาตัวจริง 💖 📞 ติดต่อโดยตรง: **062-473-7277** 📌 Fanpage: **facebook.com/thisismymama** 📧 Email: **[supitsara.t@slm.co.th](mailto:supitsara.t@slm.co.th)** \#เกษียณสำราญ #FrenchBulldog #ฟาร์มสุนัข #หมาน่ารัก #คนรักหมา https://www.youtube.com/watch?v=UI4HLwiqgBo
    0 Комментарии 0 Поделились 1Кб Просмотры
  • เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นข่าวนี้ ก็ใจหายที่น้องจากไป แต่มองอีกมุมหนึ่ง น้องอายุมากขนาดนี้ ก็คงต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ไม่คล่องแคล่วเมื่อแต่ก่อน และน้องก็คงทุกข์ ไม่สบายด้วยแหละ เลยมองว่า การที่น้องจากไป ก็ดีใจที่น้องก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และได้พักยาว ๆ แล้ว แต่ยังไงก็ยังเศร้าอยู่ดี แม้อาจจะไม่ได้เลี้ยงโดยตรงก็ตาม


    โบบี สุนัขอายุยืนที่สุดในโลกวัย 31 ปี ตายแล้วที่โปรตุเกส จากการเปิดเผยของกินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ในวันจันทร์

    โบบี สุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบตอนกลางของโปรตุเกสมาตลอดชีวิตของมัน ได้รับการยืนยันว่าเป็นสุนัขที่อายุยืนที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโบบีมีอายุรวม 31 ปี กับ 165 วัน ทำสถิติใหม่แซงแชมป์เก่าจากออสเตรเลียที่ครองตำแหน่งสุนัขอายุยืนที่สุดมาตั้งแต่ปี 1939 ที่ตายไปตอนอายุ 29 ปี 5 เดือน

    ทั้งนี้ ปกติแล้วสุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งมักถูกเลี้ยงเป็นหมาต้อนฝูงแกะ มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 12-14 ปี

    ลีโอเนล คอสตา เจ้าของโบบี บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้สุนัขตัวนี้มีอายุยืนยาวมีหลายประการด้วยกัน รวมถึงการได้อยู่อย่างสงบในเขตชนบท ไม่เคยต้องถูกล่ามหรือใช้สายจูง และกิน "อาหารของคน"

    โบบีเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และไม่นานก่อนที่จะจากโลกนี้ไป โบบียังชอบออกไปเดินข้างนอกอยู่เสมอ แม้ว่าขนจะบางลง สายตาไม่เหมือนเดิม และต้องการนอนพักผ่อนมากขึ้นก็ตาม

    กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ระบุว่า สุนัขที่อายุยืนกว่า 30 ปีอย่างโบบี ถือเป็น "สิ่งมหัศจรรย์"

    Cr. https://www.voathai.com/a/bobi-world-s-oldest-dog-dies-in-portugal-aged-31/7323136.html

    #cutepet #dog
    เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นข่าวนี้ ก็ใจหายที่น้องจากไป แต่มองอีกมุมหนึ่ง น้องอายุมากขนาดนี้ ก็คงต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ไม่คล่องแคล่วเมื่อแต่ก่อน และน้องก็คงทุกข์ ไม่สบายด้วยแหละ เลยมองว่า การที่น้องจากไป ก็ดีใจที่น้องก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และได้พักยาว ๆ แล้ว แต่ยังไงก็ยังเศร้าอยู่ดี แม้อาจจะไม่ได้เลี้ยงโดยตรงก็ตาม โบบี สุนัขอายุยืนที่สุดในโลกวัย 31 ปี ตายแล้วที่โปรตุเกส จากการเปิดเผยของกินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ในวันจันทร์ โบบี สุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบตอนกลางของโปรตุเกสมาตลอดชีวิตของมัน ได้รับการยืนยันว่าเป็นสุนัขที่อายุยืนที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโบบีมีอายุรวม 31 ปี กับ 165 วัน ทำสถิติใหม่แซงแชมป์เก่าจากออสเตรเลียที่ครองตำแหน่งสุนัขอายุยืนที่สุดมาตั้งแต่ปี 1939 ที่ตายไปตอนอายุ 29 ปี 5 เดือน ทั้งนี้ ปกติแล้วสุนัขพันธุ์ราเฟโร อเลนเตฮาโน ซึ่งมักถูกเลี้ยงเป็นหมาต้อนฝูงแกะ มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 12-14 ปี ลีโอเนล คอสตา เจ้าของโบบี บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้สุนัขตัวนี้มีอายุยืนยาวมีหลายประการด้วยกัน รวมถึงการได้อยู่อย่างสงบในเขตชนบท ไม่เคยต้องถูกล่ามหรือใช้สายจูง และกิน "อาหารของคน" โบบีเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และไม่นานก่อนที่จะจากโลกนี้ไป โบบียังชอบออกไปเดินข้างนอกอยู่เสมอ แม้ว่าขนจะบางลง สายตาไม่เหมือนเดิม และต้องการนอนพักผ่อนมากขึ้นก็ตาม กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ระบุว่า สุนัขที่อายุยืนกว่า 30 ปีอย่างโบบี ถือเป็น "สิ่งมหัศจรรย์" Cr. https://www.voathai.com/a/bobi-world-s-oldest-dog-dies-in-portugal-aged-31/7323136.html #cutepet #dog
    Sad
    Like
    Love
    4
    0 Комментарии 0 Поделились 920 Просмотры
  • เจอปลวกบุกตู้เย็นฮะ

    Cr. เพจไซเป็นหมาตลก

    #dog
    เจอปลวกบุกตู้เย็นฮะ 🤣🤣🤣 Cr. เพจไซเป็นหมาตลก #dog
    Haha
    Love
    10
    24 Комментарии 0 Поделились 644 Просмотры
  • ก่อนหน้านั้นได้โพสหนังเรื่อง Arthur the King : อาเธอร์ จอมราชา ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับ น้องหมาจรจัดที่คอยวิ่งตามเป้นกำลังให้กับนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ

    โพสนี้เลยขอนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดหนังเรื่องนี้ขึ้นมาครับ ไปดูกันเลยครับ

    อาร์เธอร์ : สุนัขจรจัดที่ฝ่าเส้นทางวิ่งเทรลหฤโหดจนเข้าเส้นชัย เพียงเพราะตามคนให้อาหาร

    "ผมมาเอกวาดอร์เพื่อคว้าแชมป์โลก แต่ผมได้เพื่อนใหม่กลับไป" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าว

    การแข่งขันผจญภัย หรือ Adventure race ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันสุดท้าทาย เพราะไม่เพียงต้องพาตัวเองและทีมเข้าเส้นชัย แต่ยังต้องเอาตัวรอดท่ามกลางสภาพอากาศและภูมิประเทศอันโหดหิน

    อย่างไรก็ดีหลายปีก่อนกลับมีสุนัขจรจัดเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วยความบังเอิญ แถมยังสามารถเข้าเส้นชัยพร้อมกับมนุษย์ เพียงเพราะตามคนที่ให้อาหารมัน

    ศึกเอาชีวิตรอด
    แม้ว่าชื่อของ Adventure race หรือการแข่งขันผจญภัย อาจจะไม่ได้คุ้นหูชาวไทยมากนัก แต่มันก็เป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก หลังเริ่มจัดชิงแชมป์โลกมาตั้งแต่ปี 2000

    แต่ละทีมที่มีสมาชิก 2-4 คน จะต้องเดินทางเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรในเส้นทางที่ไม่ปรากฎบนแผนที่ และอาจจะเจอกับสภาพอากาศที่สุดขั้ว ผ่านการปีนเขา เดินป่า ปั่นจักรยาน และพายเรือคายัค

    การแข่งขันอาจจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 วัน และแต่ละวันผู้เข้าร่วมการแข่งขันอาจจะได้พักกันแค่ชั่วโมงเดียวหรือน้อยกว่านั้น

    แต่ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาจะต้องเกาะกลุ่มกัน แบ่งสรรปันส่วนอาหารและน้ำ และแน่นอนว่าหากใครในทีมได้รับบาดเจ็บก็จะต้องพาไปด้วย เพื่อเข้าเส้นชัยพร้อมกันจึงจะถือว่าจบการแข่งขัน

    ปี 2014 ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ จากสวีเดน หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลก ประกอบไปด้วย มิคาเอล ลินด์นอร์ด, ไซมอน นีมี, คาเรน ลุนเกรนด์ และ สตาฟฟาน บยอคลุนด์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันผจญภัยชิงแชมป์โลกที่เอกวาดอร์

    เส้นทางในปีนั้นค่อนข้างยาก เพราะนอกจากระยะทางรวมกว่า 700 กิโลเมตรที่มีตั้งแต่ป่าฝนแบบแอมะซอนไปจนถึงชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญกับระดับความสูง 4,500 เมตรของเทือกเขาแอนดีส และสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วถึง 13 โซนทั่วเอกวาดอร์

    "ถ้าคุณอยากจะเก่งที่สุดสำหรับกีฬานี้ คุณจำเป็นจะต้องเจ็บปวด" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าวกับ ESPN

    การพานพบที่ไม่ตั้งใจ
    "เป้าหมายของเราคืออันดับ 1 และคว้าแชมป์โลก" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าว

    สำหรับ Adventure Racing World Championship ปี 2014 พีกเพอร์ฟอแมนซ์ถือว่าทำผลงานได้ไม่เลว เมื่อพวกเขามาถึงจุดเปลี่ยนกิจกรรมรองสุดท้าย ที่เปลี่ยนจากการปั่นจักรยานมาเป็นเดินป่า ตั้งแต่วันที่ 4 ของการแข่งขัน

    ตอนนั้นพวกเขาตามหลังผู้นำอยู่ไม่กี่ชั่วโมงและยังมีโอกาสที่จะแซงได้ แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเมื่อลินด์นอร์ดไปสะดุดตากับสุนัขจรจัดเนื้อตัวสกปรกตัวหนึ่งระหว่างพักเบรกรอเดินทางไปยังจุดต่อไป

    มันมีสภาพที่ย่ำแย่สุดขีด ตัวเต็มไปด้วยโคลน และมีแผลขนาดใหญ่ที่กลางหลัง พร้อมเลือดที่เกรอะกรังไปทั่วตัว เขาคาดว่ามันน่าจะโดนทำร้ายมา ด้วยความสงสารลินด์นอร์ดจึงแบ่งลูกชิ้นที่ติดตัวมาให้มันกิน

    "ตอนผมกำลังเปิดกล่องอาหาร ตาผมก็เหลือบไปเห็นสุนัขท่าทางสกปรกตัวหนึ่ง" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Aftonbladet สื่อของสวีเดน

    "ผมคิดว่ามันกำลังหิวก็เลยเอาลูกชิ้นให้มัน หลังจากนั้นก็คิดว่าจะไม่ให้แล้ว"

    หลังจากนั้นลินด์นอร์ดและทีมก็ออกเดินทางต่อเพราะฟ้ามืดลงแล้ว แต่เมื่อเขาหยุดพักเพื่อจัดของระหว่างทาง ลินด์นอร์ดก็เห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ไกล ๆ ในป่า ก่อนจะรู้ว่ามันคือสุนัขที่เขาเพิ่งให้ลูกชิ้นไป

    "เฮ้ เจ้าหมา แกไม่กลับบ้านเหรอ แกจะเอาไงต่อ จะไปกับเราเหรอ" ลินด์นอร์ด ถามสุนัขตัวนั้น

    แน่นอนว่าลินด์นอร์ดเพียงแค่เย้ามันเล่น เพราะการเอาสุนัขเดินทางไปด้วยไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทางข้างหน้าล้วนโหดหิน โดยเฉพาะโคลนที่สูงระดับเข่าที่มนุษย์เองบางทียังเอาตัวเองเกือบไม่รอด

    ทว่าสุนัขจรจัดตัวนั้นไม่ได้รับรู้หรือบางทีมันอาจจะไม่สน มันเดินตามลินด์นอร์ดและทีมไปตลอดทางในป่า แถมบางครั้งพวกเขาต้องช่วยกันดึงมันออกมาจากโคลนด้วยซ้ำ

    ไม่นานมันก็สนิทกับทุกคนในทีม และนอกจากมันจะร่วมทางไปด้วยแล้ว มันยังคอยเฝ้าระวังตอนที่ทีมหยุดพัก เช่นตอนที่ ไซมอน นีมี อยู่ในสภาวะขาดน้ำ มันก็นั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้นไม่ห่าง

    พวกเขาจึงตัดสินใจให้มันเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม และตั้งชื่อมันว่า อาร์เธอร์ ที่มาจากกษัตริย์อาร์เธอร์ กษัตริย์อังกฤษในตำนาน จากความสง่างามของมัน

    "ผมคิดว่ามันสมควรได้รับชื่อว่าอาร์เธอร์ เหมือนกับราชา" ลินด์นอร์ด อธิบาย

    และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพครั้งสำคัญ

    เข้าเส้นชัยไปพร้อมกัน
    อาร์เธอร์เดินตามลินด์นอร์ดและสมาชิกในทีมจนออกมาจากป่าได้สำเร็จในวันที่ 5 ของการแข่งขัน ในสภาพที่อ่อนแรงทั้งคนและสุนัข พวกเขาเหลืออีกเพียงแค่ด่านเดียวก็จะจบการแข่งขัน

    "อาเธอร์เดิมพันชีวิตของมันไว้กับเรา มันเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการไปกับเราในป่า ดังนั้นผมจึงเดิมพันกับมันเหมือนกัน และผมก็โชคดีมากเพราะมันเป็นหมาที่น่ารักที่สุดในโลก" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Daily Mail

    ทว่าเส้นทางของอาร์เธอร์ดูเหมือนจะสิ้นสุดที่ด่านสุดท้าย เมื่อสมาชิกต้องพายเรือเป็นระยะทางกว่า 54.7 กิโลเมตรในเส้นทางที่อันตราย และคาดว่าน่าจะใช้เวลาราว 14 ชั่วโมงกว่าจะถึงเส้นชัย การเอาสุนัขไปด้วยจะเป็นอุปสรรคกับพวกเขามากกว่า

    บวกกับผู้จัดการแข่งขันก็แนะนำให้ทิ้งมันไว้ที่ริมฝั่ง ซึ่งพวกเขาก็เคารพคำแนะนำนั้น ก่อนจะบอกลาเพื่อนสี่ขาด้วยสภาพจำยอม

    "ทีมผู้จัดการแข่งขันให้คำแนะนำว่าไม่ควรเอาอาร์เธอร์ไปด้วยในด่านสุดท้าย หมาในเรือคายัคไม่ได้เป็นไอเดียที่ดี ทีมก็เลยทำตามคำแนะนำ" ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ ย้อนความหลังใน Facebook อย่างเป็นทางการของทีม

    แต่อาร์เธอร์ก็ไม่ยอม เพราะทันทีที่ทีมออกจากฝั่งมันก็เริ่มเห่า กระโดดลงน้ำ และว่ายมาหาพวกเขา จนทำให้ลินด์นอร์ดทนดูภาพนี้ไม่ไหว ตัดสินใจรับมันขึ้นมาอยู่บนเรือคายัค ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนที่อยู่บนฝั่ง

    "เมื่อเราออกตัวผมมองไปที่มันแล้วเริ่มพาย จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงน้ำกระเซ็น" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ ESPN

    "อาร์เธอร์กระโดดลงมาในน้ำ มันว่ายตามหลังเรามา ชัดเจนว่ามันคือส่วนหนึ่งของเรา การดูแลหมาตัวนี้ยิ่งใหญ่กว่าการได้รับชัยชนะ" บยอคลุนด์ เสริม

    อย่างไรก็ดีการมีสุนัขอยู่บนเรือไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องหาวิธีพายเพื่อไม่ให้โดนตัวอาร์เธอร์ แถมบางครั้งมันยังพยายามกระโดดลงน้ำและทำให้พวกเขาต้องลงไปช่วย เรียกได้ว่าทุลักทุเลทั้งคนและสัตว์

    "มันขวางทางตลอดเวลาพาย และทำให้เราต้องหาเทคนิคในการพายใหม่ เพื่อไม่ให้โดนมันจนตกน้ำ" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Gear Junkies

    "บางครั้งมันก็กระโดดลงไปในน้ำและว่ายน้ำ แล้วคลานขึ้นมาอีกครั้งด้วยความหนาวจัด ทำให้เราต้องเอาแจ็คเก็ตห่มให้มัน"

    "ครั้งหนึ่งตอนที่เราอยู่ใกล้กับฝั่ง มันกระโดดออกไปและว่ายไปที่ฝั่ง เราคิดว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นมัน แต่มันก็วิ่งไปตามถนนแล้วกระโดดลงน้ำว่ายมาหาเรา"

    และหลังจากผ่านเส้นทางอันหฤโหดในวันที่ 6 ของการแข่งขัน พวกเขาก็เข้าเส้นชัยด้วยสมาชิก 5 ชีวิต แทนที่จะเป็น 4 และจบในอันดับ 12 จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 54 ทีม

    แต่การเดินทางของอาร์เธอร์ไม่ได้จบลงแค่นี้


    มิตรภาพบริสุทธิ์
    "เขารู้สึกอะไรบางอย่างกับอาร์เธอร์และคิดว่าปล่อยมันไว้ไม่ได้ เขาแค่อยากจะช่วยเพื่อนของเขา" เฮเลนา ลินด์นอร์ด ภรรยาของมิคาเอล บอกกับ ESPN

    หลังการแข่งขันลินด์นอร์ดรู้สึกว่าเขาจะทิ้งอาร์เธอร์ไว้ไม่ได้และอยากจะพามันกลับไปสวีเดนด้วย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินไม่น้อยในการขนสัตว์เลี้ยงข้ามทวีป รวมไปถึงต้องรักษาบาดแผลของมันก่อน

    "ผมรู้ทันทีเลยว่าผมอยากพามันกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวของผม และให้มันได้มีชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Daily Mail

    ลินด์นอร์ดจึงเล่าเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ แล้วเปิดรับบริจาคผ่านบัญชี Paypal จนทำให้ชื่อของอาร์เธอร์โด่งดังไปทั่วโลก ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสังคมของเอกวาดอร์ และคณะกรรมการเกษตรสวีเดน ที่อนุญาตให้พาเพื่อนใหม่ของเขาไปสวีเดนได้

    หลังจากเข้ารับการรักษาจากสัตวแพทย์และกักตัวครบ 120 วัน มีนาคม 2015 อาร์เธอร์ก็เดินทางจากเอกวาดอร์ไปอยู่กับครอบครัวของลินด์นอร์ดในเมือง Örnsköldsvik ทางตอนกลางของสวีเดน

    "มันรู้สึกแฮปปี้ที่อยู่กับเรา ตอนที่เรามารับมัน มันกระโดดไปรอบ ๆ จุ๊บเราและนอนลงเพื่อให้เราเกาท้อง มันทักทายทุกคนที่พบระหว่างวัน" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ MailOnline

    "เรารอวันนี้มานาน และตอนนี้มันก็อยู่ที่นี่ มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวของเรา และเป็นวันที่ดีกว่าเดิมสำหรับอาร์เธอร์"

    อาร์เธอร์ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวใหม่ ได้ออกไปเที่ยวหลากหลาย ก่อนจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบในปี 2020 ด้วยอายุราว 12 ปี

    ทว่าเรื่องราวของอาร์เธอร์ยังคงถูกเล่าขาน ผ่านทั้งหนังสือของลินด์นอร์ดที่มีชื่อว่า The Dog who Crossed the Jungle to Find a Home ในปี 2016 ไปจนถึงสารคดีมากมายก่อนมันเสียชีวิต

    นอกจากนี้อาร์เธอร์ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ก่อตั้งมูลนิธิการกุศลเพื่อช่วยเหลือสุนัขข้างถนน รวมถึงโครงการ "สุนัขชุมชน" ที่จะจัดหาสัตวแพทย์ไปคอยดูแลสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ

    แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ของอาร์เธอร์ที่ทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ และได้เจอกับครอบครัวที่รักมัน … ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต

    "มันเป็นนักสู้เหมือนกับผมที่ไม่เคยยอมแพ้ ผมมองเห็นสิ่งนั้นในป่าตอนที่มันตามเรามา" ลินด์นอร์ด ทิ้งท้าย

    Cr. https://mainstand.co.th/th/features/6/article/3276

    #dog
    ก่อนหน้านั้นได้โพสหนังเรื่อง Arthur the King : อาเธอร์ จอมราชา ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับ น้องหมาจรจัดที่คอยวิ่งตามเป้นกำลังให้กับนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ โพสนี้เลยขอนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดหนังเรื่องนี้ขึ้นมาครับ ไปดูกันเลยครับ อาร์เธอร์ : สุนัขจรจัดที่ฝ่าเส้นทางวิ่งเทรลหฤโหดจนเข้าเส้นชัย เพียงเพราะตามคนให้อาหาร "ผมมาเอกวาดอร์เพื่อคว้าแชมป์โลก แต่ผมได้เพื่อนใหม่กลับไป" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าว การแข่งขันผจญภัย หรือ Adventure race ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันสุดท้าทาย เพราะไม่เพียงต้องพาตัวเองและทีมเข้าเส้นชัย แต่ยังต้องเอาตัวรอดท่ามกลางสภาพอากาศและภูมิประเทศอันโหดหิน อย่างไรก็ดีหลายปีก่อนกลับมีสุนัขจรจัดเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วยความบังเอิญ แถมยังสามารถเข้าเส้นชัยพร้อมกับมนุษย์ เพียงเพราะตามคนที่ให้อาหารมัน ศึกเอาชีวิตรอด แม้ว่าชื่อของ Adventure race หรือการแข่งขันผจญภัย อาจจะไม่ได้คุ้นหูชาวไทยมากนัก แต่มันก็เป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก หลังเริ่มจัดชิงแชมป์โลกมาตั้งแต่ปี 2000 แต่ละทีมที่มีสมาชิก 2-4 คน จะต้องเดินทางเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรในเส้นทางที่ไม่ปรากฎบนแผนที่ และอาจจะเจอกับสภาพอากาศที่สุดขั้ว ผ่านการปีนเขา เดินป่า ปั่นจักรยาน และพายเรือคายัค การแข่งขันอาจจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 วัน และแต่ละวันผู้เข้าร่วมการแข่งขันอาจจะได้พักกันแค่ชั่วโมงเดียวหรือน้อยกว่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาจะต้องเกาะกลุ่มกัน แบ่งสรรปันส่วนอาหารและน้ำ และแน่นอนว่าหากใครในทีมได้รับบาดเจ็บก็จะต้องพาไปด้วย เพื่อเข้าเส้นชัยพร้อมกันจึงจะถือว่าจบการแข่งขัน ปี 2014 ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ จากสวีเดน หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลก ประกอบไปด้วย มิคาเอล ลินด์นอร์ด, ไซมอน นีมี, คาเรน ลุนเกรนด์ และ สตาฟฟาน บยอคลุนด์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันผจญภัยชิงแชมป์โลกที่เอกวาดอร์ เส้นทางในปีนั้นค่อนข้างยาก เพราะนอกจากระยะทางรวมกว่า 700 กิโลเมตรที่มีตั้งแต่ป่าฝนแบบแอมะซอนไปจนถึงชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญกับระดับความสูง 4,500 เมตรของเทือกเขาแอนดีส และสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วถึง 13 โซนทั่วเอกวาดอร์ "ถ้าคุณอยากจะเก่งที่สุดสำหรับกีฬานี้ คุณจำเป็นจะต้องเจ็บปวด" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าวกับ ESPN การพานพบที่ไม่ตั้งใจ "เป้าหมายของเราคืออันดับ 1 และคว้าแชมป์โลก" มิคาเอล ลินด์นอร์ด กล่าว สำหรับ Adventure Racing World Championship ปี 2014 พีกเพอร์ฟอแมนซ์ถือว่าทำผลงานได้ไม่เลว เมื่อพวกเขามาถึงจุดเปลี่ยนกิจกรรมรองสุดท้าย ที่เปลี่ยนจากการปั่นจักรยานมาเป็นเดินป่า ตั้งแต่วันที่ 4 ของการแข่งขัน ตอนนั้นพวกเขาตามหลังผู้นำอยู่ไม่กี่ชั่วโมงและยังมีโอกาสที่จะแซงได้ แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเมื่อลินด์นอร์ดไปสะดุดตากับสุนัขจรจัดเนื้อตัวสกปรกตัวหนึ่งระหว่างพักเบรกรอเดินทางไปยังจุดต่อไป มันมีสภาพที่ย่ำแย่สุดขีด ตัวเต็มไปด้วยโคลน และมีแผลขนาดใหญ่ที่กลางหลัง พร้อมเลือดที่เกรอะกรังไปทั่วตัว เขาคาดว่ามันน่าจะโดนทำร้ายมา ด้วยความสงสารลินด์นอร์ดจึงแบ่งลูกชิ้นที่ติดตัวมาให้มันกิน "ตอนผมกำลังเปิดกล่องอาหาร ตาผมก็เหลือบไปเห็นสุนัขท่าทางสกปรกตัวหนึ่ง" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Aftonbladet สื่อของสวีเดน "ผมคิดว่ามันกำลังหิวก็เลยเอาลูกชิ้นให้มัน หลังจากนั้นก็คิดว่าจะไม่ให้แล้ว" หลังจากนั้นลินด์นอร์ดและทีมก็ออกเดินทางต่อเพราะฟ้ามืดลงแล้ว แต่เมื่อเขาหยุดพักเพื่อจัดของระหว่างทาง ลินด์นอร์ดก็เห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ไกล ๆ ในป่า ก่อนจะรู้ว่ามันคือสุนัขที่เขาเพิ่งให้ลูกชิ้นไป "เฮ้ เจ้าหมา แกไม่กลับบ้านเหรอ แกจะเอาไงต่อ จะไปกับเราเหรอ" ลินด์นอร์ด ถามสุนัขตัวนั้น แน่นอนว่าลินด์นอร์ดเพียงแค่เย้ามันเล่น เพราะการเอาสุนัขเดินทางไปด้วยไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทางข้างหน้าล้วนโหดหิน โดยเฉพาะโคลนที่สูงระดับเข่าที่มนุษย์เองบางทียังเอาตัวเองเกือบไม่รอด ทว่าสุนัขจรจัดตัวนั้นไม่ได้รับรู้หรือบางทีมันอาจจะไม่สน มันเดินตามลินด์นอร์ดและทีมไปตลอดทางในป่า แถมบางครั้งพวกเขาต้องช่วยกันดึงมันออกมาจากโคลนด้วยซ้ำ ไม่นานมันก็สนิทกับทุกคนในทีม และนอกจากมันจะร่วมทางไปด้วยแล้ว มันยังคอยเฝ้าระวังตอนที่ทีมหยุดพัก เช่นตอนที่ ไซมอน นีมี อยู่ในสภาวะขาดน้ำ มันก็นั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้นไม่ห่าง พวกเขาจึงตัดสินใจให้มันเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม และตั้งชื่อมันว่า อาร์เธอร์ ที่มาจากกษัตริย์อาร์เธอร์ กษัตริย์อังกฤษในตำนาน จากความสง่างามของมัน "ผมคิดว่ามันสมควรได้รับชื่อว่าอาร์เธอร์ เหมือนกับราชา" ลินด์นอร์ด อธิบาย และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพครั้งสำคัญ เข้าเส้นชัยไปพร้อมกัน อาร์เธอร์เดินตามลินด์นอร์ดและสมาชิกในทีมจนออกมาจากป่าได้สำเร็จในวันที่ 5 ของการแข่งขัน ในสภาพที่อ่อนแรงทั้งคนและสุนัข พวกเขาเหลืออีกเพียงแค่ด่านเดียวก็จะจบการแข่งขัน "อาเธอร์เดิมพันชีวิตของมันไว้กับเรา มันเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการไปกับเราในป่า ดังนั้นผมจึงเดิมพันกับมันเหมือนกัน และผมก็โชคดีมากเพราะมันเป็นหมาที่น่ารักที่สุดในโลก" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Daily Mail ทว่าเส้นทางของอาร์เธอร์ดูเหมือนจะสิ้นสุดที่ด่านสุดท้าย เมื่อสมาชิกต้องพายเรือเป็นระยะทางกว่า 54.7 กิโลเมตรในเส้นทางที่อันตราย และคาดว่าน่าจะใช้เวลาราว 14 ชั่วโมงกว่าจะถึงเส้นชัย การเอาสุนัขไปด้วยจะเป็นอุปสรรคกับพวกเขามากกว่า บวกกับผู้จัดการแข่งขันก็แนะนำให้ทิ้งมันไว้ที่ริมฝั่ง ซึ่งพวกเขาก็เคารพคำแนะนำนั้น ก่อนจะบอกลาเพื่อนสี่ขาด้วยสภาพจำยอม "ทีมผู้จัดการแข่งขันให้คำแนะนำว่าไม่ควรเอาอาร์เธอร์ไปด้วยในด่านสุดท้าย หมาในเรือคายัคไม่ได้เป็นไอเดียที่ดี ทีมก็เลยทำตามคำแนะนำ" ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ ย้อนความหลังใน Facebook อย่างเป็นทางการของทีม แต่อาร์เธอร์ก็ไม่ยอม เพราะทันทีที่ทีมออกจากฝั่งมันก็เริ่มเห่า กระโดดลงน้ำ และว่ายมาหาพวกเขา จนทำให้ลินด์นอร์ดทนดูภาพนี้ไม่ไหว ตัดสินใจรับมันขึ้นมาอยู่บนเรือคายัค ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนที่อยู่บนฝั่ง "เมื่อเราออกตัวผมมองไปที่มันแล้วเริ่มพาย จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงน้ำกระเซ็น" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ ESPN "อาร์เธอร์กระโดดลงมาในน้ำ มันว่ายตามหลังเรามา ชัดเจนว่ามันคือส่วนหนึ่งของเรา การดูแลหมาตัวนี้ยิ่งใหญ่กว่าการได้รับชัยชนะ" บยอคลุนด์ เสริม อย่างไรก็ดีการมีสุนัขอยู่บนเรือไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องหาวิธีพายเพื่อไม่ให้โดนตัวอาร์เธอร์ แถมบางครั้งมันยังพยายามกระโดดลงน้ำและทำให้พวกเขาต้องลงไปช่วย เรียกได้ว่าทุลักทุเลทั้งคนและสัตว์ "มันขวางทางตลอดเวลาพาย และทำให้เราต้องหาเทคนิคในการพายใหม่ เพื่อไม่ให้โดนมันจนตกน้ำ" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Gear Junkies "บางครั้งมันก็กระโดดลงไปในน้ำและว่ายน้ำ แล้วคลานขึ้นมาอีกครั้งด้วยความหนาวจัด ทำให้เราต้องเอาแจ็คเก็ตห่มให้มัน" "ครั้งหนึ่งตอนที่เราอยู่ใกล้กับฝั่ง มันกระโดดออกไปและว่ายไปที่ฝั่ง เราคิดว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นมัน แต่มันก็วิ่งไปตามถนนแล้วกระโดดลงน้ำว่ายมาหาเรา" และหลังจากผ่านเส้นทางอันหฤโหดในวันที่ 6 ของการแข่งขัน พวกเขาก็เข้าเส้นชัยด้วยสมาชิก 5 ชีวิต แทนที่จะเป็น 4 และจบในอันดับ 12 จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 54 ทีม แต่การเดินทางของอาร์เธอร์ไม่ได้จบลงแค่นี้ มิตรภาพบริสุทธิ์ "เขารู้สึกอะไรบางอย่างกับอาร์เธอร์และคิดว่าปล่อยมันไว้ไม่ได้ เขาแค่อยากจะช่วยเพื่อนของเขา" เฮเลนา ลินด์นอร์ด ภรรยาของมิคาเอล บอกกับ ESPN หลังการแข่งขันลินด์นอร์ดรู้สึกว่าเขาจะทิ้งอาร์เธอร์ไว้ไม่ได้และอยากจะพามันกลับไปสวีเดนด้วย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินไม่น้อยในการขนสัตว์เลี้ยงข้ามทวีป รวมไปถึงต้องรักษาบาดแผลของมันก่อน "ผมรู้ทันทีเลยว่าผมอยากพามันกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวของผม และให้มันได้มีชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ Daily Mail ลินด์นอร์ดจึงเล่าเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ แล้วเปิดรับบริจาคผ่านบัญชี Paypal จนทำให้ชื่อของอาร์เธอร์โด่งดังไปทั่วโลก ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสังคมของเอกวาดอร์ และคณะกรรมการเกษตรสวีเดน ที่อนุญาตให้พาเพื่อนใหม่ของเขาไปสวีเดนได้ หลังจากเข้ารับการรักษาจากสัตวแพทย์และกักตัวครบ 120 วัน มีนาคม 2015 อาร์เธอร์ก็เดินทางจากเอกวาดอร์ไปอยู่กับครอบครัวของลินด์นอร์ดในเมือง Örnsköldsvik ทางตอนกลางของสวีเดน "มันรู้สึกแฮปปี้ที่อยู่กับเรา ตอนที่เรามารับมัน มันกระโดดไปรอบ ๆ จุ๊บเราและนอนลงเพื่อให้เราเกาท้อง มันทักทายทุกคนที่พบระหว่างวัน" ลินด์นอร์ด กล่าวกับ MailOnline "เรารอวันนี้มานาน และตอนนี้มันก็อยู่ที่นี่ มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวของเรา และเป็นวันที่ดีกว่าเดิมสำหรับอาร์เธอร์" อาร์เธอร์ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวใหม่ ได้ออกไปเที่ยวหลากหลาย ก่อนจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบในปี 2020 ด้วยอายุราว 12 ปี ทว่าเรื่องราวของอาร์เธอร์ยังคงถูกเล่าขาน ผ่านทั้งหนังสือของลินด์นอร์ดที่มีชื่อว่า The Dog who Crossed the Jungle to Find a Home ในปี 2016 ไปจนถึงสารคดีมากมายก่อนมันเสียชีวิต นอกจากนี้อาร์เธอร์ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมพีกเพอร์ฟอร์แมนซ์ก่อตั้งมูลนิธิการกุศลเพื่อช่วยเหลือสุนัขข้างถนน รวมถึงโครงการ "สุนัขชุมชน" ที่จะจัดหาสัตวแพทย์ไปคอยดูแลสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ของอาร์เธอร์ที่ทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ และได้เจอกับครอบครัวที่รักมัน … ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต "มันเป็นนักสู้เหมือนกับผมที่ไม่เคยยอมแพ้ ผมมองเห็นสิ่งนั้นในป่าตอนที่มันตามเรามา" ลินด์นอร์ด ทิ้งท้าย Cr. https://mainstand.co.th/th/features/6/article/3276 #dog
    Love
    Yay
    5
    15 Комментарии 0 Поделились 1Кб Просмотры
  • หน้าตาเพื่อนตอนที่มีผู้เดินผ่าน
    #หมาน่าฮัก#หมาตลก
    หน้าตาเพื่อนตอนที่มีผู้เดินผ่าน #หมาน่าฮัก#หมาตลก
    Haha
    Love
    Like
    8
    12 Комментарии 0 Поделились 720 Просмотры
  • สตอรี่ยัวๆค่ะ5555
    #หมาตลก
    สตอรี่ยัวๆค่ะ5555 #หมาตลก
    Haha
    Love
    7
    11 Комментарии 0 Поделились 830 Просмотры
  • เมื่อเราเพิ่งจัดฟันมาใหม่
    #หมาตลก
    เมื่อเราเพิ่งจัดฟันมาใหม่ #หมาตลก
    Haha
    Love
    7
    15 Комментарии 0 Поделились 609 Просмотры
  • หมาตาเหลือก 5555

    #cutepet #dog #snow
    หมาตาเหลือก 5555 #cutepet #dog #snow
    Like
    Love
    4
    4 Комментарии 0 Поделились 507 Просмотры
  • รายงานตัวงับ
    #หมาดื้อ #หมาตลก #หมาน่ารัก
    #dog
    รายงานตัวงับ #หมาดื้อ #หมาตลก #หมาน่ารัก #dog
    Love
    Yay
    2
    0 Комментарии 0 Поделились 475 Просмотры
  • จ๊ะเอ๋
    #หมาตลก #หมาดื้อ #หมาน่ารัก
    จ๊ะเอ๋ #หมาตลก #หมาดื้อ #หมาน่ารัก
    Love
    2
    2 Комментарии 0 Поделились 402 Просмотры
Расширенные страницы